top of page
  • Black Facebook Icon
  • Instagram

Welcome to the world where truth doesn't hurt

ตำนานบาร์อินดี้กรุงเทพฯ : Lullabar (2003-2009)


คลับ บาร์ เป็นส่วนสำคัญต่อวัฒนธรรมดนตรีและวัฒนธรรมวัยรุ่นเมืองหลวงทุกยุค เป็นแหล่งกำเนิดความทรงจำดีๆ ระหว่างเพื่อนฝูงในวัยที่ยังไม่ค่อยมีภาระ เพื่อไม่ให้มันถูกลืม จากนี้เดือนละครั้งสองครั้ง เราจะลงเรื่องคลับ บาร์ แกลเลอรี่ที่เราคิดว่ามีบทบาทสำคัญต่อซีนดนตรีทางเลือก โดยเฉพาะซีนพังก์ ร็อค อินดี้ อัลเทอร์เนทีฟของกรุงเทพฯ ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา (2000-2020) เขียนโดยคนที่มีความผูกพันธ์กับร้านนั้นจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของ พนักงาน หรือลูกค้าขาประจำ

 

Lullabar (2003-2009) ซอยมหรรณพ 1 (เสาชิงช้า) โดย ชณัฏฐ์ หวังบุญเกิด-เจ้าของร้าน

เรื่องของเรื่องร้านนี้ก็ไม่ได้เกิดจากความตั้งใจหรอก ตอนนั้นผมอายุราว 25 แล้วพ่อผมไปเจอบ้านเก่าแล้วชอบ อยากจะทำเป็นร้านอาหาร บอกให้ผมลาออกจากงานมาทำร้าน ตอนนั้นผมก็เพิ่งเริ่มทำ Dudesweet ได้สองปีมั้ง แล้วมันสนุกมาก ก็เลยอยากทำร้านให้เป็นที่ฟังเพลงแบบที่เราชอบในโหมดชิลล์ไว้ต้อนรับเพื่อนๆ เรา


แต่พ่อก็อยากให้เป็นร้านอาหารสำหรับผู้ใหญ่ ก็กลายเป็นทะเลาะกันหนักจนสุดท้ายกลับบ้านไม่ได้ต้องนอนในร้านนั่นล่ะ และต้องหาเงินมารันร้านเองทั้งหมด ฮ่าๆๆๆ เชี่ยโคตรเหนื่อย

ไอ้ไทเกอร์ (RIP) พนักงานหมาประจำร้าน

ด้วยร้านเป็นแบบ stand alone อยู่ในซอย อินเตอร์เน็ตยังไม่มีทุกบ้าน และยังไม่มีสื่อโซเชียล ลูกค้าจะรู้จักได้ก็ต้องปากต่อปากอย่างเดียว แล้วดันเลือกจะเปิดเพลงนอกกระแสอย่างเดียวด้วยไง กลุ่มลูกค้าเลยแคบลงไปอีก แต่ตอนนั้นผมเชื่อไง ว่าลูกค้าที่มาจะเป็นกลุ่มที่เหนียวแน่นเพราะตอนนั้นไม่ค่อยมีที่รองรับคนที่ฟังเพลงแบบนี้เท่าไหร่ ซึ่งก็เป็นจริง ลูกค้าที่มาก็มาซ้ำๆ จนเป็นญาติกันหมด

เรื่องของดนตรีในร้านก็เราเน้นเปิดเพลงที่เราชอบแหละ ไม่ได้เน้นว่าจะต้องนอกกระแสขนาดนั้น คุ้มดีคุ้มร้ายบ้าง บางทีลูกค้าก็ไร้ท์ซีดี ยกฮาร์ดดิสก์เอาเพลงมาแบ่งกันฟัง ช่วงแรกยังไม่มีเล่นดนตรีในร้านนะ และก็ยังไม่มีลูกค้าด้วย จนเพื่อนทักว่าต้องมีดนตรีสดในร้านว่ะ พร้อมแนะนำวงให้ ตอนนั้นก็เลยเริ่มมีวง


แล้วพอทำไปทำมาก็มีน้องๆ ทยอยมาออดิชั่นจนมีวงเล่นทุกวัน ต้องขอขอบคุณนักดนตรีทุกคนด้วย เพราะตอนมาออดิชั่นกันเราก็บอกเลยว่าร้านเราไม่ค่อยมีเงินนะ แค่พอมีค่ารถ มีข้าว มีเบียร์ให้กิน แต่ทุกวงก็เล่นกันโคตรเต็มที่ เรียกได้ว่าแม่งเล่นกันไม่ยอมเลิกด้วยซ้ำ โคตรบ้าบอ จนร้านมีชื่อเสียงขึ้นมาได้จากวงพวกน้องๆ นี่ล่ะ

ส่วนภาพรวมบรรยากาศในร้านน่ะหรือ ก็อย่างที่เล่าไปว่าส่วนใหญ่เป็นลูกค้าหน้าเดิมๆ รู้จักกันหมด แม่งเลยเหมือนซิทคอมไง อยู่ในฉากเดิมๆ แต่ละคนมาพร้อมกันปัญหา ประเด็น เรื่องตลกใหม่ๆ วนเวียนมาให้วุ่นวายกันเสมอ (พอนึกออกมะ ไอ้พวกคนพวกฟังเพลงนอกกระแสเมื่อก่อนน่ะ มักจะไม่ค่อยปกติกันซะเท่าไหร่ ปัญหาหรือประเด็นที่เกิดหลายๆครั้งแม่งโคตรพิลึกเลย) แม่งเหมือน asylum ขนาดย่อมๆ เอาคนพังๆ มากองรวมกันให้กรอกเหล้าไปเรื่อยๆ

แต่อย่างว่า ช่วงเวลาแห่งความสุขมักผ่านไปไว เปิดร้านมาได้ 6 ปี จู่ๆคนก็อยากมาเล่นกีฬาสีบนถนนราชดำเนิน ปิดถนนเล่นกันเป็นปีๆ ก็เลยจำเป็นต้องปิดตัวไป


พอผ่านมาถึงจุดนี้ ก็ต้องขอขอบคุณทีมงาน เพื่อน นักดนตรี ลูกค้าทุกคน และขออภัยถ้าทำอะไรไม่ดีไปในตอนนั้น แม่งเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตจริง ขอบคุณครับ นัท

รายชื่อวงดนตรีที่เคยเล่นที่ Lullabar หลายวงมีบาร์นี้เป็นเวทีแรกๆ

댓글


bottom of page