ผลการลงประชามติ อังกฤษถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (EU) ด้วยเสียงโหวตออก 51.9% ต่อ 48.1% จากผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งหมด46,501,241 คน สร้างความกังวลและความปั่นป่วนต่อตลาดโลกตลอดทั้งวัน
นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เขาเคารพและภูมิใจกับการตัดสินใจของชาวอังกฤษครั้งนี้ และก้าวต่อไปคือการเดินหน้านำสหราชอาณาจักรเข้าร่วมกลุ่มประเทศ AEC อย่างเต็มรูปแบบ
ผู้สื่อข่าววงในรายงานว่า การเจรจาเข้าร่วม AEC ของอังกฤษครั้งนี้ ดำเนินการมาอย่างลับๆ กว่าสองปีแล้ว โดยสาเหตุที่อังกฤษสนใจเข้าร่วม AEC เพราะเห็นว่าเป็นกลุ่มประเทศที่หญิงงาม ทะเลสวย อาหารอร่อย ของถูก และผู้คนเป็นมิตร
“ผมยังจำตอนที่ผมเดินทางมาท่องเที่ยวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ระหว่างรอเข้ามหาวิทยาลัย (gap year) ได้ ว่าผมประทับใจผู้คนประเทศในแถบนี้มาก ถึงกับตกหลุมรักกับสาวไทยคนหนึ่งชื่อ “หนุงหนิง” ที่ตอนนี้เธอแต่งงานและมีลูกสามคนแล้ว” เขากล่าว “แต่หากหนุงหนิงได้อ่านข้อความนี้ ผมอยากให้เธอได้รับรู้ ว่าเธอคือรักแรกของผม และผมยังคงคิดถึงเธอไม่เคยเสื่อมคลาย”
การเข้าร่วมกลุ่มประเทศ AEC ของอังกฤษในครั้งนี้ มีสิงคโปร์ร่วมผลักดันอย่างออกนอกหน้า ถึงขั้นยอมเปลี่ยนกฏเหล็กหลายข้อเพื่อต้อนรับสมาชิกใหม่ หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ คือการเสนอร่างรัฐธรรมนูญชุดใหม่เข้าสภา เพื่อให้ประชาชนสามารถเคี้ยวหมากฝรั่งบนท้องถนนได้อย่างถูกกฏหมาย
ส่วนในประเทศไทย พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา เรียกร้องให้เพิ่มค่านิยมจาก 12 ประการ เป็น 18 ประการ เช่นการเร่งบรรจุหลักสูตรการประดิษฐ์บายศรีสู่ขวัญเป็นวิชาบังคับในระดับมัธยมต้น การออกกฏหมายบังคับให้คนใส่ชุดไทยระหว่าง 8.00 น. – 18.00 น. การให้ประชนรำไทยทุกวันจันทร์ พุธและศุกร์หลังเคารพธงชาติไม่ว่าจะในตัวอาคารหรือที่สาธารณะ อีกทั้งให้ทำความเคารพเมื่อพบคนอังกฤษในที่ต่างๆ ทั้งนี้เพื่อเป็นการแสดงถึงความอ่อนน้อมถ่อมตน และวัฒนธรรมอันดีงามของไทย