Mischa Cheap ปรับโฉมใหม่เป็น “บาร์รับ” สไตล์ไซต์ก่อสร้างเป็นเวลาหนึ่งเดือน เพื่อเอาใจทัวร์ริสต์สายรุกจากทั่วโลก
แม้ไม่ได้ตั้งใจ แต่บาร์มิจฉาชีพ (Mischa Cheap) ก็ถูกเรียกว่าเป็นบาร์ลับแห่งถนนข้าวสารอยู่บ่อยๆ ด้วยเป็นร้านหายาก เพราะทางเข้าเป็นตรอกแคบๆ มีเพียงป้ายร้านสีเหลืองปากทางซึ่งไม่เคยมีใครสังเกตเห็น
แต่วันนี้จนถึงสิ้นเดือนตุลาคม บาร์ลับแห่งนี้จะแปลงโฉมเป็น “บาร์รับ” เพื่อเอาใจนักเที่ยวสายรุกทั้งไทยและต่างชาติ โดยผู้ takeover คือคุณวิหาร อึ้งบุญส่ง ผู้ก่อตั้งสมาคม “ไทยรับ” เพื่อช่วยเหลือและให้คำปรึกษาคนรุ่นใหม่ที่เป็นรับ
ความเก๋ของบาร์รับเฉพาะกาลนี้ อยู่ที่ไอเดียการตกแต่งสไตล์ไซต์ก่อสร้างสุดชิค (Construction Site Chic) ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมมากในยุโรป และคุณวิหารนำมาปรับใช้กับกรุงเทพฯ ได้อย่างดิบเถื่อนแต่ลงตัว ท้าทายทัวร์ริสต์สายรุกจากทั่วโลกให้อยากลิ้มลองบรรยากาศบาร์รับแบบไทยๆ
วันนี้ Third Wold มีโอกาสได้พูดคุยกับคุณวิหารแบบ exclusive เพื่อถามถึงที่มาที่ไปของไอเดียการเปลี่ยนบาร์ Mischa Cheap ให้เป็นบาร์รับที่ไม่ลับบนถนนข้าวสาร
สัมภาษณ์: ฝนสวย แก้วสว่างดี
ภาพ: Mischa Cheap
“ตั้งแต่จำความได้ พี่ก็เป็นรับมาตลอด” คุณวิหารย้อนความหลัง “ตอนประถม เวลาคุณครูถามว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร เพื่อนๆ เขาตอบว่าอยากเป็นครู อยากเป็นหมอ แต่พี่เป็นคนเดียวในชั้นที่ตอบว่าอยากเป็นรับ
ส่วนเหตุผลที่พี่อยากเปิดบาร์รับที่นี่ เพราะพี่ต้องการช่วยเหลือสังคม คือปีนี้พี่อายุ 45 แล้ว ชีวิตที่ผ่านมาพี่รับมาเยอะแล้ว พี่ก็อยากคืนให้สังคมบ้าง พี่เห็นว่าถนนข้าวสารเป็นแหล่งชาวต่างชาติ ซึ่งชาวต่างชาติส่วนใหญ่มักเป็นรุก ดังนั้น การมีพื้นที่ให้คนไทยที่เป็นรับได้พบปะกับรุกจากนานาชาติ ย่อมทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและประสบการณ์ ซึ่งสิ่งนี้คือ soft power และ ณ จุดนี้ พี่ก็มองว่าข้าวสารคือประตูสู่ soft power ไทยให้ทั่วโลกได้ชื่นชม”
เส้นทางการเป็นรับของคุณวิหารมิได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ กว่าจะมีวันนี้ เขาต้องฟันฝ่าบทพิสูจน์มากมาย เขาเติบโตในครอบครัวชนกลาง คุณพ่อและคุณแม่เป็นเจ้าของกิจการรับเหมาก่อสร้างขนาดเล็ก เขาเป็นลูกคนเดียว ครอบครัวจึงฝากความหวังให้สืบทอดกิจการ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ
“แรกๆ พี่ก็พยายามทำเต็มที่เพื่อให้ท่านสบายใจและคิดว่าเดี๋ยวเราก็คงรักมันไปเอง พี่ก็ทำอยู่เกือบสิบปีเลยนะ แต่ ณ จุดนึง มันก็อึดอัดจนไปต่อไม่ไหว สุดท้ายพี่เลยเปิดอกคุยกับท่านตรงๆ ว่าลูกไม่อยากทำรับเหมาก่อสร้างแล้วนะป๊า ลูกอยากเป็นรับ ลูกชอบทางนี้ ซึ่งพี่โชคดีมากๆ ที่มีคุณพ่อคุณแม่ที่รักและเข้าใจพี่ ป๊าก็บอกว่า ลูกอยากทำอะไร อยากเป็นอะไรพ่อแม่ไม่เคยบังคับ ขอแค่ลูกเป็นคนดีก็พอ”
เล่าถึงตรงนี้ คุณวิหารก็น้ำตาคลอหน่วยด้วยซาบซึ้งในความรักของคุณพ่อคุณแม่จนเราต้องหยุดสัมภาษณ์ แล้วเมื่อได้เช็ดน้ำตาเขาก็เล่าต่อว่า
“พอป๊าเห็นว่าเราอยากเอาดีทางรับ ท่านสนับสนุนเต็มที่ ท่านช่วยฝากพี่เข้าค่ายทหาร อันที่จริงตอนนั้นป๊าให้พี่เลือกระหว่างค่ายทหารกับวัด แต่พี่เลือกไปค่ายทหาร เพราะรู้สึกว่าในวัดมีรับเยอะแล้ว”
เป็นเวลาสองปีที่คุณวิหารต้องกินอยู่และฝึกหนักในค่ายทหาร ซึ่งมันได้สร้างให้เขาให้เป็นรับที่แกร่งและสมบุกสมบัน จนเป็นที่กล่าวขวัญของทั้งกองร้อย นอกจากนี้สังคมทหารยังหล่อหลอมความรักชาติ ให้เขาอยากทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติ หลังออกจากค่ายทหาร คุณวิหารจึงเดินทางท่องโลกกว่าสี่ปี เพื่อสั่งสมประสบการณ์การการเป็นรับจากผู้คนหลากหลายเชื้อชาติและวัฒนธรรม ระหว่างนั้นเขาก็ก่อตั้งสมาคม “ไทยรับ” เพื่อให้คำปรึกษาคนรุ่นใหม่ที่เป็นรับโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
“พี่ชื่นชมคนรุ่นใหม่นะ” คุณวิหารกล่าว “คือต้องยอมรับเลยว่าพวกเขารับเก่งกว่าคนรุ่นเก่ามาก เพราะพวกเขาโตมากับอินเตอร์เน็ต ทำให้ได้เห็นการรับรูปแบบต่างๆ ตั้งแต่เด็ก พี่รู้จักน้องๆ รุ่นใหม่ที่เป็นรับเก่งๆ เยอะมาก พี่พูดเลยว่ารับของไทยเราไม่แพ้ชาติใดในโลกจริงๆ แต่ทั้งนี้มันก็ยังไม่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐเท่าที่ควร ซึ่ง ณ จุดนี้พี่ก็คิดว่ารัฐบาลควรยื่นมือเข้ามาสนับสนุน เพราะมันคือ soft power ที่จะสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยได้”
ถึงตอนนี้ คุณวิหารบอกว่าเขาผ่านการรับมาเยอะจนมองคนปราดเดียวก็บอกได้ทันทีว่าใครเป็นรับ เขาดูออกแม้กระทั่งจากภาพถ่ายว่าใครเป็นรับ เช่นคนที่ถ่ายรูปในปาร์ตี้แล้วไม่ยิ้มให้กล้อง หรือคนที่ชอบทำท่าทีเผลอ ไม่มองกล้อง
แต่แม้เขาจะเป็นรับมาทั้งชีวิต เขาก็ไม่เคยบอกว่ามันเป็นเรื่องง่าย
“คนที่เป็นรับอย่างเรามักโดนกดทับ” คุณวิหารกล่าว "แล้วบางครั้งเวลาเราเจอสังคมที่ชายเป็นใหญ่ มันก็ยิ่งอึดอัด จุกปากจุกคอ พูดอะไรไม่ออก ถามว่าเหนื่อยไหม เหนื่อยสิ! (หัวเราะ) แต่พี่ก็มีคติประจำใจว่าทำวันนี้ให้ดีที่สุด ดังนั้น เวลาใครมารุกพี่ พี่ก็จะรับให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ คือเราต้องรู้หน้าที่ของเรา เราต้องทำวันนี้ให้ดีที่สุด”
เพื่อเปิดตัวบาร์รับสไตล์ไซต์ก่อสร้าง ใครที่แต่งตัวไตล์ไซต์ก่อสร้างมาที่ร้าน จะได้รับช็อตฟรี 1 ช็อตจนถึงสิ้นเดือนตุลาคม
ส่วนโปรแกรมดนตรีและอีเว้นต์ที่บาร์ Mischa Cheap ตลอดเดือนนี้ คุณวิหารบรรจงคัดเฉพาะดีเจชั้นนำที่เป็นสายรับมาเปิดเพลง โดยแนวดนตรีจะแตกต่างกันไปในแต่ละคืน เช่น เฮาส์, เทคโน, อินดี้, ดิสโก้, ป๊อป, ฮิปฮอป ฯลฯ นอกจากนี้ เขายังเตรียมอีเว้นต์โดนใจสายรับมากมาย เช่นปาร์ตี้ drag show, คืนคาราโอเกะ หรืองานเปิดอัลบั้ม “1989 (Taylor’s Version)” ของเทเลอร์ สวิฟต์ ศิลปินสาวสวยขวัญใจสายรับทั่วโลก ในวันศุกร์ที่ 27 ตุลาคมนี้ (ดูตารางดีเจและอีเว้นต์พิเศษของทางร้านได้ที่ IG @MischaCheap)
ส่วนคืนที่พิเศษสุดในแต่ละสัปดาห์ คือทุกคืนวันเสาร์ ซึ่งดีเจจะเล่นเพลงป๊อปฮิตติดหู เต้นสนุก ทั้งเพลงไทย เพลงสากล หรือเกาหลี เป็นคืนละลายกำแพงเชื้อชาติระหว่างรุกและรับบนถนนข้าวสารให้ได้กลายเป็นหนึ่งเดียวกัน
“สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าคุณจะเป็นรุกหรือเป็นรับมันก็ไม่สำคัญหรอก" คุณวิหารกล่าว "ขอแค่รักชาติและเป็นคนดีของสังคมก็พอ” เขาให้ข้อคิดทิ้งท้าย ก่อนจะเสริมว่า "แต่รุกเถื่อนๆ พี่ก็ชอบนะ"
Comments