เรื่อง: โน้ต พงษ์สรวง @dudesweetworld
ดราม่าโปรโมเตอร์สองทีมจัดเฟสติวัลจัดชน อันได้แก่ MahoRasop Festival และ Very Festival ทำให้ได้เห็นว่า แหม่...ชาวอินดี้นี่ชั่งเก้วกาด
ผมออกจะเห็นเฉยๆ กับเรื่องนี้ เพราะดูจากรูปการณ์แล้ว สองเจ้านี้เขาชอบวงร็อคคนละ energy กัน มันก็น่าจะออกมาเป็นเฟสติวัลคนละรส อุปมาว่าเป็นแผงข้าวขาหมูกับข้าวหมูแดงในซอยเดียวกัน --หมูเหมือนกันแต่คนละแบบ แล้วเศรษฐกิจแบบนี้แต่ละฝั่งก็คงมีงบจ้างวงพีคๆ กันได้ไม่เกินสามวง (เพราะถ้าลงทุนมากกว่านี้คนดูก็คงจ่ายค่าตั๋วไม่ไหว) แล้วถ้าความพีคของวงไม่ถึงเบอร์ Arctic Monkeys มันก็ไม่มีใครฆ่าใครได้ขนาดนั้นหรอก คือถ้ามันเป็นเฟสติวัลที่วงแม่งพีคทั้ง line up แบบ 100 Rock Festival เมื่อปี 2006 แล้วมีแบบนั้นสองอันในวีคเอนด์เดียวกันนี่สิ จึงจะสร้างความเดือดร้อนต่อผู้จัดและเยาวชนของชาติอย่างแท้จริง
แล้ว...ก็มีคนพูดจนได้ว่า --"มันเป็นเรื่องการยอมถอยเพื่อช่วยกันพัฒนาซีนดนตรีให้ดีขึ้น!", "มันเป็นเรื่องมารยาท!"
เรื่องมารยาท?
ฮู้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ยยยยยย ยยยยยยยยยยยยยย ยยยยยยยยยยยยยยยย ยยยย ยยยยยยยยยยยยยยยยยย ยยยยยยยยยยยยย ยยย 5555 วงการนี้มันเคยมีซะที่ไหนล่ะแก๊! ไอ้การปาดวง การสู้ราคากันมันเกิดขึ้นตลอดเวลา แค่มันเกิดขึ้นหลังไมค์เธอเลยไม่เห็น นอกจากนี้ยังมีเรื่องการแย่งสปอนเซอร์กันอีก แต่มันก็วิถีธรรมดามากของธุรกิจวงดนตรีอิมพอร์ต (ได้ข่าวว่าสาย EDM นี่ยิ่งกว่าสงครามนางงาม) มีโปรโมเตอร์คนไหนไม่เคยโดนปาด โดนปั่นมั่งยกมือขึ้น ไม่มี้! ถ้าใครทุนสู้เขาไม่ได้ก็จงนั่งลงแล้วขย้ำชายกระโปรงอดกลั้น เพราะต่อให้น้ำตาไหลก็ไม่มีใครแคร์ นี่มันธุรกิจ! คุณคิดว่าที่โปรโมเตอร์มันหายกันไปเรื่อยๆ เพราะอะไรล่ะฮึ?
ปีที่แล้ว Dudesweet เองก็พยายามจะบุ๊ควงสี่วง เช่น Boy Plabo, DIIV หรือ Superorganism แต่ไม่ได้เลยสักวงเพราะเบื่อจะไป bid สู้ราคากับเจ้าอื่น คือเอาจริงไม่มีตังค์ไปเล่นเกมส์เปิดซองประมูลราคาด้วยแหละ ก็อยู่จืดๆ จนๆ จัดปาร์ตี้ก๊อกแก๊กของเราต่อไป อาจจะมีเม้าไอ้คนปาดแก้โมโหกันในออฟฟิศสองสามทีแต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไร แล้วถึงวันเราก็ซื้อตั๋วไปดูวงที่ตัวเองบุ๊คไม่ได้ นี่เขียนๆ อยู่ก็เกิดนึกงงตัวเองขึ้นมาเอาตอนนี้ ว่าปีที่แล้วกูคิดไงถึงจะเอา Boy Plabo เข้ามาวะ รู้จักอยู่แค่สองสามเพลง แถมคนในทีมก็ไม่ได้มีใครชอบเสียหน่อย สงสัยกระแสแข่งกันอิมพอร์ตวงอินดี้ฝรั่งเมื่อปีที่แล้วมันคงร้อนแรงมากจนเราเคลิ้มคิดไปลงสนามกับเขาด้วย
สันนิษฐานว่าที่เขาต้องจัดวีคเอนด์เดียวกัน อาจเพราะวงต่างๆ มันมาทัวร์เอเชียช่วงเดียวกันพอดี คือมันจะมีฤดูวงฝรั่งทัวร์แถบเอเชียแบบนี้ทุกปีอยู่แล้ว และโดยมากวงก็จะให้คิววีคเอนด์ดีๆ กับประเทศที่สำคัญกว่าสำหรับเขาก่อน เช่นญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลี ฮ่องกง สิงคโปร์ ส่วนประเทศโลกที่สาม...มึงรอกูเคลียร์วันกับพวกโลกที่หนึ่งให้ลงตัวแป๊บนะ เดี๋ยวบอก ผมมั่นใจว่าถึงตอนนี้ผู้จัดทั้งสองฝั่งเขายังสรุปไลน์อัพไม่ได้กันทั้งคู่ด้วยซ้ำ เพราะคงยังต้องรอดูอีกหน่อยว่าจะมีตัวเด็ดๆ ตัวไหนจะมาแถวนี้อีก แต่ที่ต้องประกาศวันกันแล้ว เพราะต้องรีบทำแพ็คเกจไปขายสปอนเซอร์กันทั้งคู่ ก่อนที่บรรดาสปอนเซอร์จะปิดงบครึ่งปีหลังในช่วงต้นเดือนกรกฏาคม อันนั้นสิที่ยาก เพราะประเทศนี้มีสินค้าไม่กี่เจ้าหรอกที่แบรนด์เมเนอเจอร์จะรู้จัก King Krule (ถ้าบอกว่าจัดเฟสติวัล EDM ป่านนี้ได้บู๊ธเต็มงานกันไปแล้วมั้ง) เรื่องมันก็น่าจะแค่นี้แหละ แต่แฟนคลับนี่โมโหแทนเขาไปถึงไหนต่อไหนแล้วก็ไม่รู้ อินอะไรขนาดนั้น นัดตบกันหลังตู้แอมป์เลยมะ นี่จะปิดราชประสงค์กันเลยหรือเปล่า? มันคือธุ ระ กิด มันคือการซื้อของขายของ ไม่มีใครทำอะไรเพื่อซีนขนาดนั้นหรอก (เบื่อประโยคอะไรแบบนี้มาก ขอบอก) การอิมพอร์ตวงเข้ามาเยอะๆ ไม่ได้ทำให้ซีนคอนเสิร์ตไทยแข็งแรงขึ้น เพราะซีนดนตรีจะแข็งแรงได้ต้องมาจากวงดนตรีในประเทศเอง เช่นงานอย่าง Cat Fest หรือ Crossplay ของฟังใจนั่น ก็ซื้อตั๋วไปดูวงไทยกันบ้างนะจ๊ะ (แต่วงอินดี้ไทยก็มักจะหาดูฟรีได้เรื่อยๆ ซะอีก) ปัจจุบันมีนักดนตรีอินดี้ไทยน้อยมากๆ ที่จะหาเลี้ยงชีพได้ด้วยดนตรีอย่างเดียว แล้วถ้าซีนอินดี้ร็อคไทยคึกคักแข็งแรงเมื่อไหร่ เดี๋ยวเราก็เป็นเมืองเนื้อหอมด้าน rock n roll เอง นี่ไม่ได้พูดลอยๆ เพราะเรื่องนี้มันพิสูจน์ไปแล้วในยุคอัลเตอร์ (90s) และยุคเด็กแนว (2000s) หรือยุคโน้นน ที่จำความไม่ค่อยได้แต่รู้ว่าเดวิด โบวี่เคยมาเล่นเมืองไทย กลับมาเรื่องเทศกาล Very MahoRasop Festival -- เราไม่คิดว่าผู้จัดเขาตีกัน คิดว่าที่วันต้องชนกันอาจด้วยกรอบเรื่องเวลาอย่างที่บอก ก็เอาเป็นว่า ถ้าฝั่งไหนเอา The Cure มา กูก็ไปฝั่งนั้นแหละ
Links MahoRasop Festival Very Festival ภาพเปิด: Franz Ferdinand ที่เทศกาลดนตรี 100 Rock Festival ปี 2006 ที่เมืองทองธานี