พี่เซียนสอนน้อง ตอน
“How to Make a Fashion Show”
เรื่องโดย พี่เซียน ภาพแฟชั่นโชว์ โดย พันธ์สิริ สิริเวชชะพันธ์
สวัสดีไอ้น้อง
โปรดอย่าถามว่าข้าเป็นใครเมื่อในอดีต เอาเป็นว่า จากนี้เจอพี่เมื่อไหร่ พี่จะต้องมีเรื่องมาเล็คเชอร์น้องเสมอ นั่นเพราะพี่เป็นคนมีความรู้รอบตัวโดยกำเนิด จะถูกจะผิดข้าไม่รู้ล่ะ ข้าเชื่อว่าข้าถูกของข้าก็แล้วกัน
วันนี้ Third World เขาเชิญพี่มาสั่งสอนน้องเรื่องแฟชั่น ก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาจ้างพี่มาเขียน เพราะปกติพี่จะถนัดเรื่องประเภทเพาะไก่ชนมากกว่า แต่เดาว่าเขาคงเบื่อๆ บทความแฟชั่นที่เขียนโดยผู้หญิงหมั่นไส้ผู้หญิงด้วยกัน หรือบทความที่มีประโยคประมาณว่า “ซีซั่นนี้ รองเท้าคู่นี้สำคัญมาก must have เลยค่ะ!” คนที่เขียนอะไรแบบนี้ ควรแดกพาราสักสองเม็ดก่อนเขียนหนังสือ น่าจะช่วยได้นะ เพราะอย่างเวลาไก่พี่มันตื่นคน พอพี่บดพาราผสมน้ำให้มันกิน มันก็ดูจะรู้ผิดชอบชั่วดีขึ้น
เข้าเรื่องดีกว่า
ถาม: ทำแฟชั่นโชว์ยากไหมคะ? ตอบ: ง่ายมาก อย่าถามอะไรโง่ๆ แบบนี้อีก
ขอต้อนรับสู่ Third World Fashion Week
โจทย์
Greyhound Original คอลเล็คชั่น "Originally Unoriginal" นี้ ตั้งคำถามกับคำว่า “original” ว่าแท้จริงความเป็น “ต้นฉบับ” นั้นมาจากไหน ในเมื่อทุกสิ่งอย่างล้วนเกิดจากสิ่งอื่น เช่นแฟชั่นก็ไม่ได้เกิดจากตัวแฟชั่นเอง แรงบันดาลใจของคอลเล็คชั่นนี้ จึงเป็นเหมือนภาพสะท้อนแนวความคิดของงานสร้างสรรค์ ว่าทุกสิ่งอย่างต่างพึ่งพาแรงบันดาลใจของกันและกัน และนิยามความสมบูรณ์แบบที่แท้จริง อาจหมายถึงความไม่ปรุงแต่งเพื่อพยายามให้เพอร์เฟ็คต์ตามสูตร
HOW TO MAKE A FASHION SHOW 1. ออกแบบเสื้อผ้า
ทีแรกเขาจะส่งเสื้อผ้ามาให้พี่ทำแฟชั่นโชว์ แต่พอคำนวนแล้ว ว่าค่าซักแห้งเพื่อส่งคืนหลังใช้เสร็จ ไม่น่าจะคุ้มค่าต้นฉบับ แล้วของเขาก็ไม่ใช่ถูกๆ กูขี้เกียจรับผิดชอบ และในเมื่อเขาพูดเรื่องต้นกำเนิดของงานออกแบบ ว่าแท้จริงไอเดียก็มาจากสิ่งรอบตัว เช่นตารางหมากรุก เสื้อคนขับแท็กซี่ กระดาษ สังกะสี หรือความเพอร์เฟ็คต์ที่เป๊ะเกินไปก็ไม่สนุก
ก็ไหนๆ เขาคิดมาจนเสร็จเรียบร้อยขนาดนี้ ว่าแท้จริงความ original ก็ล้วนเกิดจากสิ่งที่มีอยู่แล้ว งั้นข้าว่า ข้าก็เอาไอเดียเขามาทำเสื้ออีกทีเลยก็แล้วกัน
2. แคสติ้ง (Casting)
คือการเรียกโมเดลมาถ่ายรูปง่ายๆ เพื่อเอาไปคัดกันต่อในทีม ว่าคนไหนเหมาะจะเอามาเดินแบบ ค่าตัวนางแบบแฟชั่นโชว์ก็มีตั้งแต่ 4,000 ยัน 12,000 และโดยทั่วไป ถ้าเป็นเรื่องการแสดงสีหน้า นางแบบไทยจะเก่งกว่านางแบบยุโรปตะวันออกที่หากินในไทย พวกนั้นจะทำเป็นอยู่หน้าเดียว คือหน้าเซ็กซี่ ต่อให้บอกมันว่าอย่าเดินเซ็กซี่เพราะนี่เป็นแฟชั่นชุดแม่ชี มันก็ยังจือปาก ทำตาโหยเป็นแม่ชีละกิเลศไม่ได้อยู่ดี
3. ฟิตติ้ง (Fitting)
หรือแปลว่าการลองชุดบนตัวนายแบบ นางแบบ ขั้นตอนนี้ไม่ยาก ชุดไหนไม่พอดีตัวเราก็เอาสก๊อตเทปแปะ เออ แค่นั้นแหละ ไม่ต้องไปเรียนถึงเซ็นต์ มาร์ตินส์
4. เชิญสื่อ
สิ่งที่สำคัญที่สุดของขั้นตอนนี้คือการเขียนจดหมายข่าวประชาสัมพันธ์ หรือ press release โดยทั่วไปเขาจะจ้างบริษัท PR ทำกัน ราคาสำหรับความยาวไม่เกิน 1 หน้า A4 อยู่ที่ตั้งแต่สามพันถึงสามหมื่น นับว่าแพงอยู่เหมือนกัน สำหรับงานเขียนที่ไม่เห็นมีใครสนใจจะอ่าน
แต่เอ็งไม่ต้องไปเสียตังค์จ้างใคร เพราะพี่ไปศึกษามาอย่างถี่ถ้วนจนออกมาเป็นต้นแบบให้เอ็งแล้ว เสร็จแล้วก็ร่อนอีเมล์ หรือ inbox ไปตามสื่อต่างๆ ให้เยอะที่สุด ของพี่ส่งไป 31 ที่ มีตอบกลับมา 7 ที่ ซึ่งถือว่าเยอะ แสดงว่านี่เป็น press release ที่ดี พวกเอ็งลอกไปใช้กันได้เลย แค่เปลี่ยนชื่อ Third World เป็นชื่อแบรนด์ของน้องเอง
โดยทั่วไป press release ในหมวดแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ จะขึ้นต้นประโยคด้วย “เรียกได้ว่า” “พลาดไม่ได้” หรือ “กลับมาอีกครั้ง” และเต็มไปด้วยเครื่องหมายตกใจ (!) เพื่อสร้างความตื่นเต้นระทึกใจให้ผู้อ่าน (เคยมีข่าวว่ามีคนหัวใจวายตายเพราะอ่าน press release)
ตัวอย่างการเขียน press release
เรียน (ชื่อสื่อ)
“Third World เปิดตัวคอลเล็คชั่นสุดชิค ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Greyhound Original!”
เรียกได้ว่า กลับมาอีกครั้ง พลาดไม่ได้! เพราะมาแรงสุดๆ จนเอาอะไรมาฉุดก็ฉุดไม่อยู่จริง! กับ “Third World” แบรนด์น้องใหม่ล่าสุด! ที่ซีซั่นนี้ขอนำเสนอคอลเล็คชั่นสุดชิค! ที่ได้! แรงบันดาลใจมาจากคอลเล็คชั่นล่าสุดของ Greyhound Original! ห้ามพลาด!!! กับเสื้อผ้าแนวสตรีทสุดฮิป!!! Must have! กับแฟชั่นโชว์สไตล์ป๊อปอัพ! (Pop-up!) ที่เข้ากับไลฟ์สไตล์โมเดิร์นลิฟวิ่ง แบบ urban trendy!!! ที่ทางแบรนด์ Third World ภูมิใจนำเสนอ! งานนี้พิเศษสุดๆ! ที่กำลังมาแรงต้อนรับลมหนาวสุดเก๋ การกลับมาครั้งนี้ กับผลงานครั้งแรก!!1 ที่เรียบง่าย แต่มีสไตล์สุดอิน! จะทำให้คุณสนุกกับการเดินทางเท่ๆ ไฮไลท์มีทั้งเดรสพิมพ์ลายคัทติ้งเนี้ยบ! พิเศษ!!! สนุกสนานกับการ mix & match สุดชิคแต่มินิมัลและอีกมากมาย!
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม (เบอร์โทร)
5. แฟชั่นโชว์
แฟชั่นโชว์คือพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์แห่งธุรกิจแฟชั่น ทุ่มทุนกันเป็นแสนเป็นล้านเพื่อการแสดงงาน 15 นาที นี่จึงไม่ใช่เรื่องเล่นๆ น้องจึงควรเตรียมสิ่งเหล่านี้ให้พร้อม
5.1 Photo Backdrop
หรือฉากเพื่อถ่ายรูปแขกที่มางาน เพื่อใช้รูปไปลงข่าวสังคมตามสื่อต่างๆ ควรมีชื่องานของเราให้เห็นชัดเจน
5.2 Front Row
นอกจากเวทีมวย ก็ดูจะมีแต่แฟชั่นโชว์นี่ล่ะ ที่ผู้คนแย่งกันนั่งแถวหน้า ต่างกันที่มวยมันยังพอเข้าใจได้ว่าจะได้เห็นคนชกกันชัดๆ แล้วแฟชั่นโชว์มีอะไรให้ต้องอยากนั่งแถวหน้ากันนักหนา อันนี้พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน เขาคงอยากเห็นคนเดินไปเดินมาชัดๆ มั้ง ข้าก็แกล้งโง่ไปงั้นแหละ 555 ใช่แล้ว มันจะมีอะไรดูดดื่มเท่ากับการได้ดื่มด่ำอัตตาตนเอง ต่อให้ต้องเกร็งน่องเพราะแถวหน้าแน่นจนต้องแบ่งกันนั่งคนละครึ่งตูด งานแฟชั่นโชว์ใหญ่ๆ อย่าง Elle Fashion Week ถ้ามองจากฝั่งตรงข้าม จะเห็นได้ชัดเลยว่าความหนาแน่นของปริมาณคนแถวหน้าคับคั่งกว่าแถวที่สองมาก นี่คือเหตุที่ทำไมเราจึงควรเตรียมของที่ระลึกเล็กๆ น้อยๆ เตรียมไว้ให้เฉพาะคนแถวหน้า เพื่อเป็นรางวัลที่พวกเขายอมเสียสละไปนั่งซ้อนไหล่กัน เพื่อให้คนแถวที่เหลือได้นั่งสบายๆ ในวาระนี้ เรามอบกระเป๋าผ้าดีไซน์ล่าสุดจาก Dudesweet
5.3 After Party
ขอข้ามไปขั้นตอนสุดท้ายแป๊บนึง และอันนี้เป็นขั้นตอนที่ง่ายที่สุด พวกเอ็งอาจคิดว่า งาน after party ของแฟชั่นจะต้องเปิดเพลงเก๋เท่คูล NO! พวกเอ็งเข้าใจผิดทั้งหมด ถ้าอยากเต้นกับเพลงแมส เพลงตลาด เพลงกันตรึม ไม่ต้องไปถึงสำโรงหรือแผงเหล้าตอกที่ไหน ให้มาที่ after party ของงานแฟชั่นโชว์นี่ล่ะ ลืมไอ้พวกรีวิวอัลบั้มฉลาดล้ำหาฟังยากที่พวกมันชอบเขียนลงในคอลัมน์รีวิวเพลงไปเลย ไม่มีให้ฟังหรอก NEXT!
เอาล่ะ ตอนนี้ไฟหรี่แล้ว หลังเวทีพร้อมแล้ว
คนดูข้างหน้าก็พร้อมแล้ว
5...4...3...2...
SHOW TIME!
วันนี้คงพอแค่นี้ก่อน เห็นหรือยังว่าทำแฟชั่นโชว์ง่ายจะตาย ทำที่บ้านก็ได้ อย่างตอนนี้ประเทศในแถบสแกนดิเนเวียก็กำลังนิยมทำกันมาก พี่ก็หวังว่าพวกเอ็งอ่านแล้วก็จะเป็นไอเดียไปใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ เพื่ออยู่ห่างไกลกีฬาและยาเสพติด แล้วก็จำเอาไว้นะ ว่าความออริจินัลที่แท้จริงต้องเกิดจากความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองก่อน
สวัสดี
Comments