โดย พีรมณฑ์ ตุลวรรธนะ
แม้เทคโนโลยี CG (Computer Graphic) จะก้าวล้ำไปถึงไหนต่อไหน แต่พอเปิดละครช่องเจ็ดก็ยังเห็น special effect ที่เห็นแล้วก็หงุดหงิดอยู่ ดูแล้วก็สงสัยว่า ทำไมคนพวกนี้ไม่เรนเดอร์ด้วย V-Ray กันวะ โอ๊ย อนิเมทไม่ลื่นเลย เสือเสออะไรก็ไม่จัดแสง ไปดูมังกรใน Game of Thrones แทนดีกว่า
แต่พอไปคิดเปรียบเทียบกับ GOT แบบนั้นก็รู้สึกผิด ว่าเราอคติไปรึป่าว CG ในละครดีๆ ก็มีแหละ ตอนนั้นละครเรื่องนาคีที่เขาฮิตๆ กัน ก็ทำพญานาคออกมาสวยนะ
สัมภาษณ์ คุณเต้ย ชาลิต ไกรเลิศมงคล Senior Visual Effect (VFX) Artist จาก Fatcat VFX ที่ทำ Special Effect และ CG ให้ละครเรื่องนี้ดู ว่าทำไมเราถึงเห็นแต่ CG ห่วยๆ เสือตัวแข็งๆ ไม่เนียนกันบ่อยนัก
Fatcat VFX ทำเรื่องอะไรที่เราพอรู้จักมาบ้างคะ? เราทำวิชวลเอฟเฟ็คต์ให้หลายเรื่องครับ เรื่องแรกเลยที่ CG ชัดๆ ก็มณีสวาทครับ ที่คนเขาเริ่มพูดถึง CG ว่ามีการเปลี่ยนแปลงซึ่งเป็นแรงกระตุ้นให้ทีม แต่ที่มาพีคสุดก็นาคีนี่แหละ เพราะตัวเรื่องนาคีก็สนุก ละครก็ฮิต เราเลยได้ผลพลอยได้ตรงนั้นไป เทียบกับละครหลายๆ เรื่อง ก็ประสบความสำเร็จระดับนึง
ส่วนตอนนี้ก็มีหนังเรื่องใหม่ที่จะฉาย เรื่อง เพื่อนที่ระลึก ของ GDH มีมาทำ CG ด้วยกัน ซึ่งอันนี้เขามีขั้นตอนที่ชัดเจน มีการวางแผน ทีมงานเขามืออาชีพ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหนังของค่ายนี้ถึงคุณภาพดี
แล้วอะไรเป็นสาเหตุทำให้ CG ออกมาไม่มีคุณภาพคะ? การวางแผนที่ไม่ดีครับ ถ้ามองจากภาพรวมแล้ว การวางแผนที่ไม่ดีทำให้งานไฟนอลออกมาไม่ดี ไม่สมบูรณ์ ไม่เนียน เช่นสมมติว่า เราจะทำ CG งูที่เลื้อยอยู่บนแขนคนหนึ่งชอต ในเคสที่วางแผนมาไม่ดี พอได้บทมาปั๊บ ก็ไปถ่ายเลย ไม่ได้วางแผน ไม่มีสตอรี่บอร์ด ซึ่งในด้านการแสดง นักแสดงก็จะจินตนาการไม่ออก ว่างูตัวเล็กตัวใหญ่แค่ไหน เวลาเขาแสดงก็จะนึกไม่ออกว่าต้องมองตรงไหน เล่นใหญ่แค่ไหน ขยับตัวแค่ไหน
ส่วนในด้านเทคนิค ถ้าไม่ได้ติดจุดแทร็ค ไม่มีจุดให้แทรคกล้อง ชอตนั้นก็แทร็คกล้องไม่ได้ เหมือนถ่ายแค่ ขายผ้าเอาหน้ารอดไป พอไปถึงคนทำ CG พอไม่มีจุดแทร็คปั๊บ ทำไง ไฟนอลมาก็ไม่เนียน หรือกล้องถ่ายมาไม่เว้นที่ให้ CG ทางไฟนอลก็ไม่รู้จะเอาซีจีไปวางไว้ตรงไหน เบื้องหลังการถ่ายทำที่ถึงจะใช้ green screen ก็ยังต้องมีจุดไว้ "แทร็คกล้อง" หรือให้คนทำ CG เอาไว้จับการเคลื่อนไหวของกล้อง
หรือหนักสุดเลย เขาไม่เผื่อเวลาให้ CG ทำงาน เขาไม่ได้คุยกันก่อน ว่างูมันต้องมีหลายขั้นตอนนะ ต้องปั้นโมเดล ต้องอนิเมท (animate) ต้องเร็นเดอร์ (render) มันผ่านหลายกระบวนการ ช็อตนึงอาจใช้เวลาหลายอาทิตย์ แต่เขาไม่ได้วางแผนกันก่อน เขาก็คิดว่า โอ๊ย CG ใช้เวลาไม่นานหรอก แป๊บเดียว [เมื่อเป็นเช่นนี้] มันก็จะเดือด ทำกันไม่ทัน แล้วพอเดือดปั๊บ แต่ละขั้นตอนมันก็จะรีบๆ แทนที่จะมีเวลาอนิเมททั้งอาทิตย์ หรือบางช็อตที่ใช้เวลาเป็นเดือนเพื่อให้อนิเมทมันละเอียด มันลื่น ก็เหลือเวลาแค่สองวัน ส่วนขั้นตอนเร็นเดอร์ แทนที่จะมีเวลาเร็นเดอร์คุณภาพ resolution สูงๆ texture ละเอียดๆ ก็ต้องปรับให้คุณภาพต่ำลงเพื่อให้ทัน
แสดงว่าปัญหามาจากผู้กำกับ, นายทุนหรือลูกค้าไม่มีความรู้เรื่อง CG? ก็มีส่วน แต่ก็ไม่ใช่ซะทีเดียวหรอกครับ เพราะเดี๋ยวนี้ ถ้าเขาจะทำหนังที่เน้นวิชวลเอฟเฟ็คต์ เขาก็พอจะรู้แล้วว่าต้องมาปรึกษาทีม CG ก่อนทำงาน สมัยก่อนมันจะมีปัญหามาก โดยเฉพาะพวกละคร เพราะต้องทำให้ทันออกอากาศ พวกนี้พอบทเสร็จแล้วเขาก็ไปถ่ายเลย ไม่ได้ปรึกษา ไม่ได้วางแผน
ทางกองถ่ายกับคนทำ CG ต้องประสานงานกันอย่างไร เพื่อให้ CG ออกมาตรงตามที่ต้องการ? ต้องคุยกันตั้งแต่บทเลยครับ ยกบทมาดูเลยว่าซีนไหนที่ CG ต้องมามีส่วนร่วม ถ้าซีนนั้นมี CG เกิน 50% ก็อาจจะต้องวาดบอร์ด มีคอนเซ็ปต์อาร์ท คอนเซ็ปต์ดีไซน์ การจะให้ทุกคนเห็นภาพในหัวผู้กำกับตรงกันให้เร็วที่สุด ต้องไม่ใช่ตัวอักษรแน่นอน เพราะถ้าบอกว่า งูตัวใหญ่ คำว่าใหญ่ของแต่ละคนมันไม่ทำกัน แต่ถ้ามีภาพมา ทุกคนก็จะเก็ตละ อ้อ งูขนาดสองเมตรนะ เวลาทำงาน ตากล้องก็จะเผื่อเฟรมให้เรา
ทำไมเราถึงไม่ค่อยเห็น CG ดีๆ ในไทย งาน CG ที่ประสบความสำเร็จของไทยส่วนใหญ่จะอยู่ในโฆษณา เพราะมีเวลาในการทำ อีกอย่างคือผู้กำกับเขียนสตอรี่บอร์ดชัดเจน เพราะงานมีแค่ 30 วิ จะสังเกตได้ว่า CG ไทย อันนี้ไม่ได้อวยนะ งานดีๆ หาได้เยอะ ดูได้ที่ไหน ก็โฆษณานี่แหละ อย่างของไทยประกันที่เป็นรถชนนี่เนียนมาก หรือของ Johny Walker ที่เดินบนหิมะ อันนั้นผ่านไปสิบปีแล้ว เอามาดูอีกทีก็ยังเนียน
ปัจจุบันงาน CG ในโฆษณาจะเนียนมาก บริษัท CG ไทยก็รับ outsource จากต่างประเทศเยอะ หลายบริษัทก็รับอนิเมชั่นจากเมืองนอกมาทำเยอะ พวกหนังฮอลลีวูด อย่างค่าย DreamWorks อะไรพวกนี้ บางที่ก็รับแทร็คโรโตสโคป (Rotoscope tracking - เทคนิคการจับการเคลื่อนไหวของฟุตเทจที่ถ่ายมาแบบทีละเฟรม) กันเป็นทีมเลยก็มี
ถ้าอย่างนั้น เงินส่วนใหญ่ก็มาจากเมืองนอกไม่ก็โฆษณา? ครับ ส่วนใหญ่เลยครับ คือตลาดหนังไทย อย่างที่เรารู้กัน ทำรายได้น้อย คนก็ไม่ค่อยดูกัน นายทุนก็ไม่กล้าลงทุนเยอะ พอมาลงทุนกับ CG ที่ราคาสูง ใช้เวลานาน เขาก็จะไม่กล้าลงทุน ส่วนละครก็จะมีข้อจำกัดเรื่อง ปริมาณมันเยอะ แล้วเวลาทำก็น้อย แต่ปัจจุบันก็ดีขึ้น เพราะเขาเห็นว่า ถ้าเรามีเวลาให้ มันก็จะพัฒนาคุณภาพได้นะ เขาก็เริ่มกล้าลงทุนขึ้น
แสดงว่า CG ดีๆ ก็เยอะ แต่เราไม่ได้สังเกตเห็นมันมากกว่า? พอ CG ที่ดีๆ มีอยู่ในโฆษณา แต่โฆษณามันไม่ได้เป็นคอนเทนต์ที่ดูแล้วเราอินกับมัน มันทำเพื่อขายของ ขายมาแล้วก็หายไป คนไม่จำอะไร แต่ละครหรือหนังเป็นคอนเทนต์ที่คนจำ คนอิน สมมติคนไปดูหนังหรือละครเรื่องนึง เจอ CG ห่วย เขาก็จำไปแล้วว่า โอ๊ย CG ไทยมันห่วย ทั้งที่จริงๆ แล้วที่ดีๆ มันก็อยู่รอบตัวเราทั้งนั้น
เคยโดนด่ามั้ยคะ การโดนด่าไม่ใช่ปัญหาครับ เพราะโดนจนชินแล้ว คอนเทนต์ที่ออกไปช่วงแรกๆ ในความรู้สึกของคนไทย ถ้าเป็นหนังไทย แล้วเป็นหนัง CG เขาก็จะคิดไว้แล้วว่า CG ไทยไม่ดี เขาก็จะคิดว่า ไปดูหนังฝรั่งดีกว่า ส่วนตัวไม่ได้มองว่าเป็นปัญหา แต่มองว่าจะทำยังไงให้คนยอมรับคอนเทนต์ไทยมากขึ้น เป็นโจทย์ของเรามากกว่า อนาคต CG ไทยจะพัฒนาขึ้นแค่ไหน จริงๆ แล้ว คนที่ทำงานสายนี้จะรู้ว่าบริษัท CG ในไทยรับงาน outsource จากต่างประเทศเยอะ เพราะเราฝีมือดี และที่สำคัญคือราคาถูก เพราะถ้าคุณภาพประมาณนี้ ทำที่ต่างประเทศจะราคาสูงมาก แล้วก็มีบริษัทจากญี่ปุ่นหรือจากจีนที่มาเปิดในไทย แล้วก็รับคนไทยเข้าทำงาน
แสดงว่าวงการ CG ในไทยก็ใหญ่พอสมควร ใช่ครับ บางบริษัทก็ทำคอนเทนท์ของตัวเองด้วย ซุ่มๆกันอยู่ ยังไม่ออกสื่อ คุณภาพก็ไม่ธรรมดาเลย ก็ต้องรอดูกันไป
Comments