top of page
  • Black Facebook Icon
  • Instagram

Welcome to the world where truth doesn't hurt

พัด Zweed N’ Roll กับคอนเสิร์ตตั๋วหมดเกลี้ยง และการช่างแม่งให้เป็น



บทความนี้สนับสนุนโดยคอนเวิร์ส แต่สิ่งที่คุณจะได้อ่านต่อไปนี้ เราไม่ได้มานั่งถามเขาว่าใส่รองเท้าคอนเวิร์สบ่อยไหม ชอบสีอะไร อันนั้นไม่ต้องถามหรอกเพราะดนตรีร็อคกับคอนเวิร์สอยู่คู่กันมาช้านานอยู่แล้ว เราอยากคุยกับเขาเพราะคิดว่าเขาเก่งจัง


คอนเวิร์สออกคอลเล็คชั่นรองเท้าที่ได้แรงบันดาลใจจากคนที่รู้จักตัวเอง รักตัวเอง และใช้พลังนั้นสรรค์สร้างผลงานของตัวเอง และพัด สุทธิภัทร ก็เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนมากๆ

 

สัมภาษณ์ โดย มนต์ทิพา วิโรจน์พันธุ์ @iarbuckle

ภาพ โดย พันธ์สิริ สิริเวชชะพันธ์ @studio__temple

 

‘ช่างแม่งให้เป็น’ คุยกับ พัด Zweed N’ Roll กับการเอาชนะความไม่มั่นใจในตัวเอง สู่คอนเสิร์ตแรกในชีวิตที่ sold out อย่างรวดเร็ว


พัด สุทธิภัทร นักร้องนำแห่งวงอัลเทอร์เนทิฟร็อค Zweed N’ Roll ที่เพิ่งปล่อยอัลบั้มเต็มไปเมื่อปีที่แล้ว และเพิ่งแสดงคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกในชีวิตไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เราชวนเธอมาคุยถึงความรู้สึกของงานครั้งนั้น และบทบาทการเป็น front woman ซึ่งเป็นความท้าทายอันหนักอึ้ง ที่สุดท้ายเธอก็ก้าวข้ามมันมาได้


เป็นยังไงบ้างกับคอนเสิร์ตใหญ่ที่เพิ่งผ่านไป

ดีมากค่ะ เป็นคอนเสิร์ตที่รู้สึกมีความสุขมากที่สุดในชีวิตเลย เพราะเหมือนทุกครั้งเวลาเราไปเล่น เราไม่สามารถควบคุมคนดู หรือไลท์ติ้ง วิชวลได้ แต่อันนี้เราทำเองทั้งหมด คืออลิน นักร้องนำวงวิมุตติ เป็นแฟนนิว มือเบสวงเรา เขาก็อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ตั้งวง เลยจะรู้ว่าวงเราเป็นยังไง เราให้โจทย์เขาไปทำการบ้านมาว่าเราจะไม่พูดเลยทั้งโชว์ จนกว่าจะจบเพลงสุดท้าย ให้ใช้ไฟกับวิชวลมาพูดแทน มันเลยจะทำให้ต้องมีการวางแผนเยอะขึ้น


คือเวลาไปเล่นงานอื่นมันจะแสดงอารมณ์ออกไปได้แค่ประมาณนึง แต่อันนี้องค์ประกอบมันส่งกันหมด มีฟลุ๊คจาก Stoic มาช่วยทำเครื่องสายให้ ก็ยิ่งขยายไดนามิกเพลงได้กว้างขึ้น แล้วก็มีอารมณ์เพลงที่สัมผัสได้โดยตรง พี่มาย Supergoods มาคอรัส พี่เฟม Cloud Behind มาเล่นคีย์บอร์ดให้ คนมาเยอะอีก มีคนขอแต่งงานที่งานอีก คือประทับใจทั้งโชว์เลย เลยรู้สึกว่านี่เป็นที่ของเราเองจริงๆ



มาจนถึงจุดนี้ ยังจำความรู้สึกตอนแรกที่ขึ้นเวทีได้ไหม

มือสั่นมาก ตอนนี้ก็ยังสั่นอยู่นะ แต่ว่าน้อยลง มือจะไม่ค่อยสั่นแล้ว สามารถมองหน้าคนดูได้บ้างแล้ว ก็ได้วิธีทำให้หายสั่นมาคือต้องกำไมค์ให้มันนิ่งๆ แล้วก็แก้ด้วยการเล่นกีตาร์ (หัวเราะ) แต่โชว์นี้เราแทบไม่ได้เล่นเลย เพื่อนไม่อยากให้เล่นกีตาร์ ก็เลยให้รุ่นพี่ชื่อพี่คีย์มาเล่นกีตาร์โปร่งให้ ทีนี้มือก็จะอยู่แถวๆ นี้ (จับที่ไหล่ ช่วงตัว) ล้วงกระเป๋าบ้าง จับไมค์บ้าง แต่มันมีวิชวล ไลท์ติ้งไง คนก็จะไม่โฟกัสเราเท่าไหร่


ก่อนหน้านี้พัดไปประกวด The Voice มา การเดินทางในฐานะนักร้องนำ Zweed N’ Roll กับนักร้องเดี่ยว ต่างกันยังไง

เราว่าช่วงเวลาของ The Voice มันค่อนข้างสั้น แล้วเราก็มีวงอยู่แล้วด้วยเลยไม่ได้โปรโมต แทบไม่ได้ทำอะไรกับมัน เวลาเราอยู่คนเดียว มันก็โหวงๆ อะ ต่างกับ Zweed N’ Roll เราจะมีเพื่อนตลอด คอยแชร์กันตลอดเวลา แบบนี้สบายใจกว่า เป็นที่ของเรามากกว่า แล้วก็คิดว่าคงไม่ได้ไปขายเล่นคัฟเวอร์อย่างเดียว อยากเล่นเพลงตัวเอง



คิดว่าความสำเร็จมาถึงไวไหม

เร็วไปไหมเราว่าวงก็ทำมา 8 ปีแล้ว แต่ถ้านับภายใน 8 ปี มันมาแค่ปีแรกที่ทำเพลงธันวาคม แล้วก็หายไปเลย แล้วมันกลับมาอีกสองปีหลัง จะพูดว่าเร็วมันก็เร็ว แต่ถ้านับรวมทั้งหมดมันก็ไม่เร็วหรอก การทำงานตรงนี้มันไม่ใช่แค่เราทำงานมีคุณภาพ แต่จังหวะเวลาก็มีผล ดวงด้วย แล้วก็มีเพื่อน พี่น้อง คอนเน็กชันด้วย


มีใครเป็นไอดอลที่เป็นผู้หญิงในวงการบ้างไหม

ถ้าคนไทยเราชอบพี่อรอรีย์ เขาดูเป็นคนเท่ๆ ทำเพลงเท่ๆ บุคลิกนิ่งๆ คล้ายๆ กัน แล้วก็ [โดโลเรส โอริโอแดน] นักร้อง The Cranberries เป็นครูเพลงเรา เราว่าเขาแต่งเมโลดี้เพราะดี การอะเรนจ์เพลงทุกๆ เพลงมีเสียงประสาน ที่ไม่เคยได้ยินวงไหนทำแล้วมันเพราะขนาดนี้สำหรับเรา แล้วเราก็ชอบสไตล์การร้องของเขา ก็มีความเท่ แต่ก็มีความซน ๆ ด้วย


ทำไมถึงชอบเพลงอัลเทอร์เนทีฟร็อค

ตอนมัธยมก็ฟัง Fat Radio ปกติแหละ ส่วนอัลเทอร์เนทิฟ บริตป๊อป เราเพิ่งเคยฟังครั้งแรกตอนเข้ามหาลัย คือเรียนดนตรีแล้วมาเจอเพื่อนกลุ่ม Zweed N’ Roll เนี่ยแหละที่เอาให้ฟัง พอฟังแล้วก็เริ่มรู้สึกเหมือนสังคมก่อนหน้านี้ที่เคยอยู่มา แทบไม่เคยได้ยินเพลงพวกนี้เลย ก็รู้สึกว่าเพลงแนวนี้มันได้ว่ะ นิ่ง ๆ มีความซ่าเล็ก ๆ ก้าวร้าวด้วย ประสาทแดกนิดหน่อย (หัวเราะ) แต่ก็มีความเพราะอยู่

ทำไมเลือกเรียนดนตรี

ช่วงที่ต้องเลือกว่าจะเรียนอะไรต่อ เหมือนตัวเองรู้อยู่แล้วว่าชอบร้องเพลง แต่ไม่ได้กล้าแสดงออกขนาดนั้น ก็เลยคิดว่าต้องเริ่มกล้าแสดงออกแล้วแหละ ก็คิดว่าคณะนี้ก็น่าจะช่วยได้ ซึ่งมันก็ดีขึ้น


เวลาเล่นคอนเสิร์ตตัวจบ กับเล่นคอนเสิร์ตวงตัวเองต่างกันไหม

เหมือนกันเลย คิดมากคล้าย ๆ กันเลย มันมีความฝันร้าย แบบนอนเก็บไปฝันว่าเล่นออกมาไม่ดีอะ แค่อันนี้ไม่มีอาจารย์มาดู (หัวเราะ)


การเป็นผู้หญิงในวงการทำให้เจออุปสรรคในการทำงานบ้างไหม

ทำวงอะไม่เคยนะ แต่รู้สึกว่าเล่นกลางคืนมีผล เราไม่เคยเจอกับตัวเอง อย่างเพื่อนๆ ไปเล่นตามโรงแรม เขาจะมีข้อกำหนดว่านอกจากร้องเพราะ ต้องเป็นผู้หญิงที่ดูดีด้วย สามารถใส่ชุดสวยๆ ได้ บางที่ถ้าไม่สวยก็ไม่เอา


พัดเคยเล่าให้ใครฟังตรงๆ ไหมว่ารสนิยมทางเพศของตัวเองเป็นแบบไหน

คนก็ถามเยอะนะ แบบ งงว่าเราชอบผู้หญิงหรือชอบผู้ชาย... คือแบบนี้ ดู ออก ยาก หรอวะ (หัวเราะ) เราว่ามันไม่ทำให้การทำงานยากนะ อยู่ที่ความเชื่อมั่นใจตัวเอง เหมือนการที่เป็นทอมมันก็จะมีความคิดว่า 'เอ๊ะ กูจะโดนหมั่นไส้ปะวะ' อันนี้ก็เป็นมาตลอด เราไม่รู้ว่าเรื่องไม่กล้าแสดงออกเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยรึเปล่า ที่ทำได้ก็แค่ ‘ช่างแม่ง' มึงไม่ชอบกูก็เรื่องของมึง


มีช่วงที่ดาวน์ ๆ ไหม ทำยังไงถึงกลับมารักตัวเองได้

มีช่วงนึงแย่มาก รู้สึกทำอะไรก็ไม่มีความสุข กินเบียร์ เมาทุกวัน ไม่อยากกลับบ้าน อยากอยู่กับเพื่อนหรือมีคนอยู่ด้วย อย่างเวลาไปเล่นกลางคืน กินให้เมา แล้วตื่นมาแฮงก์ แล้วต้องไปเล่นต่อก็ต้องถอน ถอนแล้วก็เมา ก็วนลูปแบบนี้ไปเป็นปี แล้วเหมือนเราคุยกับพ่อ ปรึกษาการใช้ชีวิต แล้วพอให้คำตอบดี ก็คือช่างแม่งเนี่ยแหละ (หัวเราะ) ก็เลยเลิกกินเบียร์แล้วไปออกกำลังกาย ไปจ้างเทรนเนอร์ให้ตัวเองเสียตังค์เยอะๆ จะได้รู้สึกว่าต้องไปเพราะเสียตังค์ไปแล้ว แล้วตอนไปเล่นก็พยายามจะไม่กินเบียร์ เพื่อให้อีกวันตื่นมาออกกำลังกายได้เต็มที่ เป็นการ reborn ที่ดีมาก



เวลามีเรื่องไม่สบายใจส่วนมากจะคุยกับใคร

เพื่อนก่อนเลย แล้วมันจะมีเพื่อนผู้หญิงกับเพื่อนผู้ชาย ถ้าคุยกับเพื่อนผู้หญิงมันจะได้ระบายแบบเอาสะใจนิดนึงอะ มีอะไรก็พูดๆๆๆๆ ไป แต่ถ้าคุยกับเพื่อนผู้ชายจะเป็นอีกฟีล มันจะให้คำปรึกษาที่ดีได้ มันมองอีกมุมนึงที่เราไม่เห็น แล้วก็มีความ ‘ช่างแม่ง' เยอะกว่า ก็เลยทำให้ค่อนข้างปลงได้


คิดว่าอะไรทำให้การรักตัวเองเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้หญิงรุ่นใหม่

สำคัญมากในการใช้ชีวิต มันส่งผลกับการมีชีวิตอยู่มากๆ ถ้าเรามีความคิดว่าตัวเองไร้ค่า ชีวิตแม่งจะดำเนินต่อไปทางไหนไม่ได้เลย ทำงานก็ไม่ได้ กินไม่ได้ นอนไม่ได้ ไม่รู้จะอยู่ไปเพื่ออะไร ทุกอย่างแย่ไปหมด แล้วการมีแรงบันดาลใจสำคัญมาก ทั้งกับตัวเองและการมอบให้ผู้อื่น ทุกคนต้องการแรงบันดาลใจ หรือคำชมเล็กๆ น้อยๆ เพื่อจุดไฟให้กับตัวเอง ให้รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า เพราะเขาอาจจะลืมความรู้สึกนั้นไปบ้าง ถ้ามีคนสะกิด ความเชื่อมันก็จะกลับมา



การกล้าที่จะรัก สำหรับพัดหมายความว่าอะไร และพัดคิดว่ามันเป็นยังไง

ถ้าเปรียบเป็นเรื่องดนตรี เรามีความรักที่จะร้องเพลง ความกล้าที่จะรักคือการตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตอยู่กับมัน มันไม่ใช่แค่การร้องเพลงอยู่ในห้องน้ำหรือในวงเหล้าเหมือนตอนเด็กๆ แล้ว ความกล้าเป็นแรงผลักดันให้เรามีชีวิตอยู่กับมัน ทำให้ความฝันมันเป็นจริง


ถ้าให้คำแนะนำกับตัวเองตอนเด็กได้ พัดจะใช้สิ่งที่เรียนรู้หรือประสบการณ์ที่ได้รับในตอนนี้ไปบอกอะไรกับเขา

คิดอะไรก็พูดออกมาบ้าง อย่าเก็บเงียบๆ


หลังจากนี้จะทำอะไรต่อ

ก็ทำอัลบั้มต่อค่ะ จะพยายามทำให้เร็วที่สุด ไม่อยากปล่อยไว้นาน ก็คงปล่อยเป็นซิงเกิ้ลนะ ถ้ารวดเดียวคงยาก


ฝากถึงคนที่ไม่เคยฟัง Zweed N’ Roll

ลองไปฟังดูได้นะคะ ไม่เสียหาย ใน YouTube ก็มี สตรีมมิงต่าง ๆ ก็มีนะคะ ถ้าชอบก็ ซีดีไม่รู้มีขายรึเปล่า ต้องถามเพื่อนอีกที หลังไมค์มาที่เพจได้ (หัวเราะ) แล้วก็ อย่าลืมรักตัวเองกันด้วยนะคะ


 
bottom of page