เมื่อวานร้านข้าวแถวบ้านเขาเปิดไททานิคอยู่ มาถึงซีนนี้ก็เพิ่งนึกสงสัยขึ้นมาว่า เดี๋ยวนะ…เรือมึงวิ่งอยู่ในแถบแอตแลนติคตอนเหนือ มึงมายืนกางปีกกันหัวเรือแบบนี้ไม่หนาวหูหลุดเหรอวะ ด้วยความคาใจ กลับถึงบ้านก็เสิร์ชเน็ตว่าสภาพอากาศตอนนั้นเป็นยังไง ซึ่งข้อมูลไททานิคหาได้ง่ายมากจนน่าตกใจ
ไททานิคล่มวันที่ 14 เม.ย. 1912 (สมัย ร. 6) ถ้าตามท้องเรื่อง ในฉากนี้ก็น่าจะวันที่ 11 เมษา เป็นกลางฤดูใบไม้ผลิ เรือกำลังใกล้ถึงนิวยอร์ค อากาศตอนเที่ยงของวันนั้นอยู่ที่ 15 องศาเซลเซียส แต่ทุ่มนึงจะลดมาเหลือ 3 องศาและต่ำลงเรื่อยๆ วันนั้นดวงอาทิตย์ตกเวลา 19.30 แต่แดดในหนังน่าจะเป็นช่วง 18.45 อากาศคงประมาณ 5 องศา โคตรหนาวนะนั่น แม้ทั้งคู่จะมีเสื้อคลุมกันหนาว และวันนั้นคลื่นลมสงบและท้องฟ้าปลอดโปร่ง แต่เรือวิ่งที่ความเร็ว 42 ก.ม/ช.ม. ลมเย็นตีหน้าพั่บๆๆ อย่างนี้ หูต้องชา กรามต้องสั่น แจ๊คต้องปวดเยี่ยว โรสต้องหนาวหัวนม สรุป: ฉากโรแมนติกนี้ แจ๊คกับโรสยืนแลกลิ้นกันอยู่ตรงนั้นด้วยความทรมาน
ระหว่างรีเสิร์ชเรื่องไททานิค ก็เจอคลิปอันนี้ เขาพิสูจน์ว่า แผ่นประตูไม้นั่นมันนอนได้สองคน ถ้าแจ๊คขึ้นมาเบียดกับโรสมันก็ไม่ต้องตายแล้ว แต่ผู้กำกับบอกว่า “แจ๊คมันไม่โง่นะโว้ย มันรู้ว่าที่เหลือ แต่ถ้ามันขึ้นไป น้ำหนักตัวจะทำให้น้ำท่วมไม้ แล้วทั้งคู่ก็ต้องนอนแช่น้ำเย็นครึ่งตัว แล้วไหนจะเสี่ยงไม้พลิกตอนปีนขึ้นไปอีก”
ดังนั้นรายการนี้เลยพิสูจน์ แล้วก็พบว่า ไม้มันพลิกตอนปีนแต่ไม่ถึงกับคว่ำ แต่ก็ทำให้ทั้งคู่ต้องนอนจมน้ำครึ่งตัวจริง เขาก็เลยออกไอเดียว่า อ่ะ งั้นก็เอาเสื้อชูชีพของโรสมาผูกไว้ใต้แผ่นไม้สิ ก็ปรากฏว่าช่วยให้ไม้ลอยตัวได้สูงขึ้น และทั้งคู่ไม่ต้องนอนแช่นำ้ แล้วแจ๊คก็ไม่ต้องตาย อ้าว…อีโรส มึง
พอกลับมาบอกผู้กำกับว่าลองแล้ว ผลที่ได้เป็นแบบนี้ ถ้าทำงี้แล้วแจ๊คจะไม่ต้องตาย ผู้กำกับบอกว่า “กูว่ามึงสองคนผิดประเด็นแระ ประเด็นคือบทมันเขียนให้แจ๊คตาย ฉะนั้นมันต้องตาย! เออ ที่จริงกูน่าจะทำให้ไม้นั่นมันเล็กลงสักหน่อยนึง แต่ยังไงไอ้แจ๊คมันก็ต้องตาย จบมะ?”
จบฆ่ะ!
Commentaires