top of page
  • Black Facebook Icon
  • Instagram

Welcome to the world where truth doesn't hurt

ฮอลลีวู้ดไม่ชอบหนังเกย์ แต่นักแสดงชายแท้ชอบพิสูจน์ฝีมือด้วยบทเกย์



สิ่งที่โดดเด่นมากๆ ในเรื่อง King Cobra จนเราเลือกเรื่องนี้ คือการแสดงของคริสเตียน สเลเตอร์ (อดีตนักแสดงขวัญวัยรุ่นในยุค 90s) และเจมส์ ฟรังโก้ มันเป็นเรื่องท้าทายมากๆ สำหรับนักแสดงชายแท้ที่จะเล่นบทเกย์ให้สมจริง — สมจริงในที่นี้ไม่ใช่วี้ดว้ายกระตู้วู้ เพราะบท cheapๆ แบบนั้นใครก็เล่นได้ แต่หมายถึงการเล่นเป็นเกย์ทั้งตัวและหัวใจ ยอมทำลายเส้นคั่นทางเพศเพื่องานศิลปะ กล้าแลกลิ้น ซั่มตูดกับผู้ชายเพื่อตีบทให้แตก


แม้ประเด็นความหลากหลายทางเพศจะเข้มข้นมากในช่วงสามปีนี้ แต่ตัวละครและหนังเกย์ในฮอลลีวู้ดในปี 2016 กลับลดลงจากเดิม 7% แล้วเอาเข้าจริง เกย์ในหนังฮอลลีวู้ดส่วนใหญ่ก็โคตรจะ sterotype เลย เหมือนมีตัวละครกะเทยขึ้นมาก็แค่เอาไว้เป็นตัวตลกมุกสังขาร ยิ่งทำให้ภาพ LGBT วนเวียนอยู่กับเดิมๆ (บิชชี่ กรี๊ดกร๊าด บ้าผู้ชาย) ในปี 2015 ค่ายใหญ่อย่างพาราเมาท์และดิสนีย์ ไม่มีหนังที่มีตัวละครเกย์เลยสักเรื่อง


“เมื่อไหร่ที่มีตัวละคร LGBT หนังฮอลลีวู้ดยังตามหลังสื่ออื่นอยู่มาก ภาพลักษณ์ที่นำเสนอก็ช่างล้าหลังถ้าเทียบกับซีรีส์ดังๆ อย่าง ‘Sense8’ ‘Orange is the New Black’ และ ‘Transparent’” ซาร่า เคท เอลลิส ประธานสมาพันธ์คุ้มครองสิทธิเกย์และเลสเบี้ยน (GLAAD) ให้ความเห็น


แม้นักแสดงฮอลลีวู้ดหลายคนไม่กล้าเสี่ยงเข้าไปในพื้นที่หนังเกย์เพราะกลัวมีผลกับฐานความนิยมในสังคมคอนเซอร์เวทีฟอย่างอเมริกา แต่แน่นอนว่ามีนักแสดงเซียนๆ อีกมาก ที่เห็นความท้าทายในอาชีพ คือการทำให้ตัวเองเป็นดินน้ำมัน แปรรูปร่างได้ตามบท ไม่ว่าจะเล่นเป็นเพศใด


วันนี้เราเลือก 10 คนในรอบ 10 ปีที่เราเห็นว่าเล่นบทเกย์ได้คมคาย คัดเลือกโดย 3 คนจากทีมงานของเรา ดังนี้ แจน – หญิงบ้านๆ ว่าไงว่าตามกัน หนังเรื่องโปรดคือหนังตระกูล Notthing Hill และ Love Actually ซิค – หนุ่มขี้รำคาญ ไม่เคยคิดก่อนพูด ชอบหนังอะไรก็ได้ที่มีซอมบี้หรือระเบิด เกย์บอย – เกย์รอรัก แต่พอมีแล้วก็เบื่อง่าย ชอบดูหนังสวยๆ เนิบๆ แบบที่ไปฉี่กลับมาเรื่องก็ยังไม่ไปไหน

1. Sean Penn in Milk (2008)

ติดอันดับหนังยอดเยี่ยมมากมายในปี 2008 ยกให้ความดีส่วนหนึ่งตรงที่มันเป็นเรื่องจริง และอีกส่วนคือการแสดงของฌอน เพนน์ ผัวเก่ามาดอนน่า ที่รับบทเป็นฮาร์วีย์ มิลค์ เกย์ฮิปปี้วัยกลางคนที่ผันตัวมาเป็นนักต่อสู้สิทธิชาวเกย์ที่แคลิฟอร์เนีย เรื่องเกิดในช่วงยุค 70’s สมัยที่พวกเคร่งศาสนายังมองพวกรักร่วมเพศเป็นพวกวิปริตกันอยู่เลย ความเห็นในออฟฟิศ

แจน: เมืองน่าอยู่อ่ะ ซิค: ถ้านักการเมืองไทยมีเกย์บ้างคงดี เกย์บอย: เกย์ก็โกงบ้านโกงเมืองได้นะมึง นักการเมืองกับโกงกินนี่ความหมายเดียวกัน


2. Jared Leto in  Dallas Buyers Club (2013)

จาเร็ดคว้าออสการ์ครั้งแรกจากเรื่องนี้ เขาลดน้ำหนักกว่า 18 กิโลและดึงการแสดงที่ดีที่สุดออกมาในบทของ Rayon ชีวิตช่วงสุดท้ายของกะเทยขี้ยาและติดเชื้อ HIV บทอาจจะดู cliche ไปหน่อย แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกติดใจอะไรเท่าไหร่ เพราะขนาดเราไม่ได้ชื่นชอบจาเร็ดอะไรเท่าไหร่ แต่ก็ยอมรับเลยว่าแม่งแสดงเรื่องนี้ดีมากจริงๆ และยังคงเป็นการแสดงที่ดีที่สุดของเขาในตอนนี้ก็ว่าได้ ความเห็นในออฟฟิศ

แจน: เอร๊ยย ขนาดแต่งเป็นตุ๊ด ยังดูหล่ออยู่เลยนะ ซิค: โนคอมเม้นต์ ตอนแม่งมาเล่นคอนเสิร์ตที่ไทย มันดีว่ะ เกย์บอย: ตอนดูก็เชียร์ให้ได้รางวัล อินจริงนะ ไม่น่าเชื่อว่าเป็นผู้ชายร็อคๆ จะเล่นได้กะเทยขนาดนี้

3. Colin Firth in A Single Man (2009)

เรียกได้ว่าเล่นน้อยแต่ได้มาก แสดงหนังเรื่องนี้ได้อย่างอัจฉริยะ เป็นการแสดงที่เรียบง่ายแต่ตราตรึง ไม่ว่าจะท่าทางการแสดงออก วิธีการเว้นจังหวะการพูด และวิธีชายตามอง ฯลฯ A Single Man เป็นภาพยนตร์ที่ว่าด้วยศาสตาจารย์ที่ต้องใช้ชีวิตอย่างเดียวดายและสิ้นหวัง เพราะแฟนหนุ่มตายจากอุบัติเหตุ แน่นอนว่าหนังเรื่องนี้ต้องภาพสวยและมีจริตแบบแฟชั่นสูงมาก เพราะมันเป็นการกำกับโดย Tom Ford ไง ความเห็นในออฟฟิศ

แจน: ถ้าขึ้นคาน บั้นปลายชีวิตฉันตอนแก่ก็คือจูเลียน มัวร์คงมีเพื่อนเกย์เป็นเพื่อน ซิค: กูหลับ เกย์บอย: หนังประดิษฐ์ไป เหมือนหนังโฆษณาน้ำหอม

4. Eddie Redmayne in The Danish Girl (2015)

ได้แรงบันดาลใจจากเรื่องจริงในช่วงยุค 1920s หนังเล่าเรื่องคู่รักจิตรกรที่ฝ่ายชายโด่งดังมีชื่อเสียง ส่วนฝ่ายหญิงไปขายงานที่ไหนก็ไม่มีใครเหลียวแล จนมาวันนึงจับผลัดจับผลูเอาผัวมาแต่งหญิงแล้ววาดรูป แล้วเกิดดังมีชื่อเสียงขึ้นมา ส่วนผัวก็ดันติดใจกับการแต่งหญิง และเริ่มติดใจอยากมีผัวซะเอง เอ็ดดี้ เรดเมย์นระบายความรู้สึกเจ็บปวดที่ตัวเป็นชายใจเป็นหญิงได้อย่างดีเยี่ยม สัมผัสได้ถึงความรันทดเหลือเกินในสมัยที่สังคมยังมองพวกเกย์ไม่ต่างจากพวกคนวิกลจริต ตัวหนังมีความปรัชญา Existentialism สูงมาก แต่ก็ดราม่ารันทดเศร้าโศกตามเรื่องตามราวสไตล์เกย์ยุคบุกเบิก แต่ท้ายๆ ฟูมฟายมากๆ จนน่ารำคาญไปนิดนึง ความเห็นในออฟฟิศ

แจน: แก ชั้นเศร้ามาก นับถือจิตใจนางเอกจริงๆ ซิค: พระเอกหน้าหวาน แต่งหญิงก็ออกมาสวยอยู่นะ เกย์บอย: แต่งหญิงให้ออกมาสวยนุ่มนิ่มขนาดนี้ไม่ง่ายนะ ต่อให้คนไม่มีกล้าม แต่แต่งหญิงทีไรแขนจะดูมีกล้ามทันที แต่ชุดในเรื่องมีแต่หลวมๆ นี่ดีอย่าง ตรงที่ไม่ต้องแต๊บ

5. Michael Fassbender in Shame (2011)

เพื่อนตุ๊ดบอกว่าเรื่องนี้ต้องไปดูในโรงให้ได้ เพราะจะได้เห็นหำไมเคิล ฟาสเบ็นเดอร์บนจอใหญ่ เออ อะไรมันจะขนาดนั้น แต่ก็ว่าไม่ได้เพราะเอาจริงๆ ถ้าให้ลิสต์รายชื่อนักแสดงที่ฮอตที่สุดไม่ว่าจะลิสต์ไหนก็ต้องมีนักแสดงหน้าตาดิบๆ คนนี้ แถมแสดงหนังก็ดีมาก ส่วนในเรื่อง Shame เขาเล่นเป็นชายแท้ๆ ทั่วไปแหละ แต่มีนิสัยขี้เงี่ยนติดเซ็กซ์ตลอดเวลา ซึ่งพอเงี่ยนจนหน้ามืดแล้วหาที่ลงไม่ได้ ก็ยอมไปมีเซ็กซ์กับผู้ชายในที่สุด ความเห็นในออฟฟิศ

ซิค: หล่อขนาดนี้ไม่น่ามีปัญหาเรื่องหาคนเอาวะ แจน: มันไม่เกี่ยวกับหน้าตาเว้ย มันเป็นเรื่องความทรมานของคนที่ต้องการเซ็กส์ตลอดเวลา ยิ่งหาง่ายนี่ยิ่งซวยเข้าไปใหญ่ เกย์บอย: ให้พี่เขาโทรหากูก็ได้นะ

6. Daniel Radcliffe in Kill Your Darlings (2013)

เห็นในความพยาย้าม-พยายามดิ้นรนให้ภาพจำแฮรี่ พ็อตเตอร์มันหลุดออกไปของแดเนียล แรดคลิฟฟ์แล้วอยากเอาใจช่วย หลังๆ นางเล่นแต่หนังที่หวังเอารางวัลไม่หยุดไม่หย่อน (แต่ก็ยังไม่เฉียดรางวัลสักที) คราวนี้นางมาทั้งโป๊เปลือยและนอนให้ผู้ชายมาขย่มกันเลยทีเดียว Kill Your Darlings อิงจากเรื่องจริงของอัลเลน กินสเบิร์ก กวีหัวหอกสำคัญของยุค Beat Generation ในช่วงชีวิตมหาวิทยาลัย ที่ไปแอบมีรักแรกพบลูเซียง คาร์ และมีเรื่องราวมันๆ ของกลุ่มเพื่อนอย่างแจ็ค เคอรูแอค ใครบ้าฟีลนักเขียนที่มีอิทธิพลอย่างหนักในยุค 50’s 60’s ก็สนุกไปตามเรื่องตามราว ส่วนใครไม่อินก็อาจจะมีเบื่อๆนิดหน่อย เพราะมันพ่นภาษากวีกันเยอะทีเดียว ความเห็นในออฟฟิศ ซิค: เดี๋ยวนี้อาชีพนักเขียนมันไม่ดูเท่แบบเมื่อก่อนแล้วเนอะ แจน: แฮรี่ พ็อตเตอร์ของเราไปไกลมาก เกย์บอย: เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า กะเทยเก่งขนาดไหน ก็ไม่สามารถหนีพ้นความนกได้

7. Ezra Miller in Perks Of Being A Wallflower (2012)

ฉากในอุโมงค์กับเพลง Heroes ของโบวี่คือหนึ่งในฉากหนังวัยรุ่นที่ดีที่สุดในยุคนี้เลยก็ว่าได้ อีเด็กเปรตใน We Need to Talk About Kevin อย่างเอซรา มิลเลอร์นักแสดงที่ชีวิตจริงก็เป็นเกย์ไม่ปิดบัง รับบทเป็นเกย์ยียวน น่ารักน่าหยิกในหนังที่เล่าเรื่องชีวิตวัยรุ่นกับการค้นหาคำตอบท่ามกลางความสับสนวุ่นวาย ฯลฯ หนังดูสนุกมาก ถึงแม้จะมีปมในเรื่องที่เป็นประเด็นหนัก แต่ผู้กำกับก็เล่าออกมาได้ดี โดยไม่ต้องฟูมฟาย เล่นใหญ่รัชดาลัยเธียเตอร์ ความเห็นในออฟฟิศ

แจน: ถึงเป็นเกย์แต่ถ้าน้องขอกูเป็นแฟนกูก็เอา น่าร้าาาก เกย์บอย: กูก็เอา ซิค: กูก็เอา ต่อให้น้องเขาเป็นสาว


8. Jim Carrey in I Love You Phillip Morris (2009)

เป็นหนังที่ต้องใช้ความพยายามในการดูมากๆ พยายามที่จะขำตามมุกที่มันเล่น ขำบ้าง แป๊กบ้าง  I Love You Phillip Morris เป็นหนังที่สร้างจากเรื่องจริง แต่แตกต่างจากหนังสร้างจากเรื่องจริงส่วนใหญ่ที่ชอบทำออกมารันทดเบอร์ไทยประกันชีวิต เพราะเรื่องนี้เป็น romantic – comedy ที่ว่าด้วยเรื่องเกย์ที่ติดคุกเพราะมีนิสัยชอบต้มตุ๋น แต่ไปพบรักแท้ในคุก (บลาๆๆ) เอาง่ายๆ คือหนังคู่เกย์ที่เล่นด้วยจิมกับยวน แมคเกรเกอร์นั่นแหละ จริงๆ หนังก็ดูเพลินดี ถ้าไม่นับฉากเอากันที่จิมกระเด้ากระตุกๆ เหมือนเล่นยาเกินขนาด ไม่รู้มันตลกตรงไหน


ความเห็นในออฟฟิศ แจน: คู่จิ้นงี้? ถ้าเป็นหนังไทยน่าจะเป็นเรย์ กับ ชาคริต ซิค: จิม แครี่มันเล่นบทไหนก็เป็นจิม แครี่อ่ะ เกย์บอย: จริงๆ ถ้า Trueman Show บทของจิมเป็นเกย์จะเริ่ดมาก

9. Gaspard Ulliel in Saint Laurent (2014)

เซ็กซ์ร้อนแรงมากในเรื่อง เห็นจู๋อล่างฉ่างเต็มหน้าจอ หนังอัตชีวประวัติแฟชั่นดีไซเนอร์ชื่อดังผู้รักในดนตรีร็อคเรื่องนี้ ขนศิลปินฝรั่งเศสดีๆ มาเล่นเพียบ แม้โทนหนังจะมีความแรดตามโลกเริ่ดๆ ของแฟชั่นยุคนั้น แต่ก็มีการเล่าเรื่องที่เนือยๆ ตามสไตล์ฝรั่งเศส สุดหล่อขวัญใจเก้งกวางอย่างกัสปาร์ อุลลิแอลก็เล่นออกมาแรดได้ใจมาก จนเราเชื่อว่าเขาคืออีฟ แซง โรคองจริงๆ ความเห็นในออฟฟิศ แจน: หนังเนือยจริง แต่ดูเสื้อผ้าก็เพลินอยู่ ซิค: เกือบหลับ ยังดีมีเพลง The Velvet Undergroud ขึ้นมา เกย์บอย: ปราณีตมาก งานดี ทั้งหนังและตัวแสดง ขอเหมาทั้ง Gaspard Ulliel และ Louis Garrel

10. James Franco in King Cobra (2016)

ปกติหนังหมวด LGBT จะมีขีดจำกัด และมันจะให้ความรู้สึกในแง่บวกต่อชาวเกย์ แต่เรื่องนี้มาแนวเกย์ดุ ว่าด้วยเรื่องชีวิตของ Brent Corrigan ดาราหนังโป๊เกย์หน้าตาจิ้มลิ้มที่ดังมากช่วงยุค MySpace ตัวละครทุกตัวในเรื่องมีความกดดันต่างกันไปเมื่อมาชนกันก็ประทุในระดับต่างๆ ส่วนตาเจมส์ ฟรังโก้นี่มีปริมาณหนังที่เขาเล่นเป็นเกย์เท่าๆ กับที่เล่นเป็นชายสายตรงเลยมั้ง แต่เรื่องนี้หนักหน่อย เพราะบทเล่นเป็นเกย์อารมณ์รุนแรงผู้จนตรอก เรื่องนี้เขาทำทุกอย่าง เอาตูด ดูดปาก กระชากหัว ความเห็นในออฟฟิศ

แจน: เกี่ยวมั้ย คนที่อยู่กับเซ็กส์มากๆ จะทำให้ก้าวร้าว ซิค: ถ้าเป็นในเมืองไทยหนังสือพิมพ์คงพัดหัว “สายเหลืองวิปริต” ตามสไตล์สังคมที่บอกรับเกย์ได้ แต่เอาจริงๆ ก็ยังเหยียดอยู่เกย์บอย: ฉากเย็ดตูดกันสมจริงมาก เกย์บอย: ตอน Brent Corrigan ดังๆ เน็ตบ้านกูหลุดบ่อยมาก กว่าจะได้รู้จักน้องอย่างลึกซึ้ง

 

King Cobra เริ่มฉายวันที่ 29 ธันวาคม ที่โรงภาพยนตร์ SF World Cinema

  • สาขา Central World

  • สาขา เมกาบางนา

  • สาขา รัชโยธิน 

  • สาขา เอสพลานาดรัชดา

Comments


bottom of page