top of page
  • Black Facebook Icon
  • Instagram

Welcome to the world where truth doesn't hurt

หลายชีวิตที่หัวลำโพง

เปิดให้บริการมากว่าร้อยปี หัวลำโพงทำหน้าที่มากกว่าสถานีรถไฟ อาคารที่ไม่เคยหลับแห่งนี้ นอกจากจะเป็นเหมือนประตูสู่ความหวังและความสิ้นหวังแห่งเมืองบางกอก มันยังเป็นจุดพักนอนของใครหลายคน ที่ทิศทางชีวิตไม่ได้แน่นอนเหมือนทางรถไฟ

สถานีต่อไป: สถานียังไม่แน่ใจ

เขาอาบน้ำกันที่ไหน (มีห้องอาบน้ำบริการ) เข้าห้องน้ำที่ไหน (มีห้องน้ำบริการ) นอนที่ไหน (ด้านนอกห้องโถง ก่อนเข้าชานชาลา) เป็นคำถามที่เรารู้คำตอบกันอยู่แล้ว แต่คนที่มานอนที่นี่เป็นใครและจะไปไหนต่อถึงต้องมานอนที่นี่ คือสิ่งที่เราอยากรู้


ภาพ: พันธ์สิริ สิริเวชชะพันธ์ Photo: Punsiri Siriwechapun @poppybeauty09

 

“ก็มาลงที่นี่ ก็คิดว่าแถวนี้มันคงมีงานทำ”

ยนต์ จากสุโขทัย


คุณป้ามาจากไหนแล้วกำลังจะไปไหนครับ เป็นคนสุโขทัยค่ะ ก็จะมาหางานทำที่นี่ล่ะค่ะ ถ้าไม่ได้ก็อาจไปที่หัวหิน


มากรุงเทพฯ บ่อยไหมครับ มาได้สองสามครั้งแล้ว มาทุกครั้งก็มาหางานค่ะ


งานที่หาเป็นงานอะไรครับ งานพวกแม่บ้านหรืองานอะไรก็ได้ค่ะ


แล้วที่สุโขทัยคุณป้าทำอะไรครับ ก็ทำงานแม่บ้าน


มาได้กี่วันแล้วครับ แล้วไปสมัครที่ไหนมาบ้าง สองวันแล้วค่ะ วันนี้ไปสมัครแถวโรงเจ ก็ไม่ได้ เขาเต็มแล้ว หางานยากมากนะ สองวันนี้ไปมาสองสามที่แล้วยังไม่ได้เลยสักที่


แล้วยังจะหาต่ออีกกี่วันครับ ก็คงอีกสักสองวันแหละ ถ้าไม่ได้ก็คงต้องกลับบ้าน ลองกลับไปหา [ที่สุโขทัย] ใหม่


ทำไมถึงมาหาที่กรุงเทพฯ ล่ะครับ ก็นั่งรถไฟมา แล้วก็มาลงที่นี่ ก็คิดว่า เออ แถวนี้มันคงมีงานทำ


เวลานึกถึงกรุงเทพฯ นึกถึงอะไรครับ ก็นึกถึงวัดพระแก้วที่สนามหลวงน่ะค่ะ

 

“ทำดี คิดดี พูดดี ทำจิตให้มีเมตตา แม่ชีก็มีแค่เนี้ย”

แม่ชีศิริรัตน์ จากเพชรบุรี


แม่ชีกำลังจะไปไหนครับ จะไปวัดชนะสงครามพรุ่งนี้ แล้วก็นัดเพื่อนจะไปงานวัดประยูรวงศาวาสฯ เป็นงานวันเกิดของหลวงพ่อ แต่ตอนนี้ (2 ทุ่ม) เพื่อนยังไม่มา เมื่อกี้โทรไปเขาบอกเขายังอยู่ที่อุดรฯ อยู่เลย เดี๋ยวคืนนี้แม่ชีก็ต้องหาที่นอนที่นี่ (หัวลำโพง) เพราะดึกๆ วัดเขาจะปิดประตู


แม่ชีมาจากไหนครับ มารถไฟจากเพชรบุรี แต่ตอนก่อนบวชแม่ชีเคยอยู่กรุงเทพฯ นะ อยู่ช่วง พ.ศ. 19 ถึง พ.ศ. 28 ตอนนั้นอายุประมาณ 15-28 ทำงานเย็บผ้าแถวดินแดง ห้วยขวาง แต่พอบวชตอน พ.ศ. 28 ก็ไม่ค่อยได้มาแล้ว


มีธรรมะจะกรุณาสอนผมสักหน่อยไหมครับ ก็ให้ทำดี คิดดี พูดดี ทำจิตให้มีเมตตา แม่ชีก็มีแค่เนี้ย ถ้าเราดีกับเพื่อนมนุษย์ เราก็เป็นสุข เรายิ้มกับเขา เขาก็ยิ้มกับเรา


 

“ชื่ออาหารที่นี่เรียกยากมาก”

Jana และ Thomas จาก Frankfurt, Germany


กำลังจะไปไหนกันครับ ยาน่า: จะไปเกาะเต่าค่ะ คงใช้เวลา (บนรถไฟ) เจ็ดชั่วโมง แล้วก็ต้องไปต่อรถบัส แล้วก็เรือเฟอรี่


ก่อนมาเมืองไทยคุณสองคนมีภาพเมืองไทยอย่างไร ยาน่า: เรารู้แต่ว่าการกินอยู่ที่นี่มันถูกมากเมื่อเทียบกับบ้านเรา แล้วก็มีทะเลสวยเยอะๆ เป็นประเทศที่สวยงาม โธมัส: แล้วเราก็มีเพื่อนผู้หญิงคนนึงที่เรียนที่นี่ ก็เลยจะไปเยี่ยมเธอที่เกาะสมุยด้วย


อีกสิบกว่าชั่วโมงที่จะถึงนี้ คุณเห็นภาพตัวเองทำอะไรอยู่ ยาน่า: ก็คงไปดำน้ำแหละค่ะ โธมัส: เรายังยังไม่มีแผนที่แน่นอนครับ อาจะไปเกาะสมุย เกาะพงัน ทีแรกเราจะบินไปแต่มันแพงมาก เพราะช่วงนี้มีฟูลมูน ยาน่า: แต่ไม่กะจะไปฟูลมูนนะ คือเราไม่ใช่พวก party people อ่ะค่ะ ก็อยากชมเมืองชมประเทศแบบเรื่อยๆ สบายๆ มากกว่า


ถึงตอนนี้คุณเพิ่งอยู่เมืองไทยได้สามวัน สมมุติว่าต้องกลับบ้านตอนนี้ จากประสบการณ์สามวันที่กรุงเทพฯ คุณจะไปเล่าอะไรให้เพื่อนฟังบ้าง ยาน่า: เป็นเมืองที่สนุกมาก แต่เหนือยมาก ร้อนมาก และจะบอกเพื่อนให้ไปเดินเล่นข้าวสาร โธมัส: ของกินเยอะมาก ผมชอบมาก


ชอบอาหารอะไรเป็นพิเศษครับ โธมัส: เอ่อ…ไม่รู้ เรียกไม่ถูกครับ ชื่ออาหารที่นี่เรียกยากมาก มันเป็นไก่ กับไข่ ยาน่า: แล้วก็มีเส้นก๋วยเตี๋ยว

 

“ฝรั่งเขาไม่รู้หรอกว่าเมืองไทยเรามีไรบ้าง เราต้องมา contact กับเขา”

ปรีชา จากกาญจนบุรี


คุณลุงมาจากไหนแล้วจะไปไหนต่อครับ ผมอยู่จังหวัดกาญจนบุรี ทำงานบริษัททัวร์และเป็นไกด์ด้วย เข้ามากรุงเทพฯ เพื่อเอาโบรชัวร์ของเรามาแจก มาติดต่อกับนักท่องเที่ยวบนถนนข้าวสาร แล้วเหตุที่ผมมาอยู่หัวลำโพง เพราะผมถือว่าอะไรที่ประหยัดได้เราก็ประหยัด ถ้าจะไปพักโรงแรมมันก็สามร้อยอย่างต่ำ แล้วที่หัวลำโพงตอนนี้มันก็มีฝรั่งมาเยอะ เพราะมันเป็นหน้าไฮซีซั่นแล้ว บางทีเราก็ไปคุยกับฝรั่งห้องโถงบ้าง เราไปแจกนามบัตรบ้าง คุณจะสนใจหรือไม่ก็แล้วแต่คุณละ แค่นี้ก็พอแล้ว


เข้ามาทีนึงต้องมานอนกี่วันครับ ก็แล้วแต่ว่ามีนักท่องเที่ยวมามากไหม ถ้ามากเราก็อยู่หลายวัน พอเริ่มจางเราก็กลับบ้าน เพราะมันต้องดูความคุ้มราคาด้วย รอบนี้มาได้สามวันแล้ว กะว่ามะรืนก็จะกลับเมืองกาญจน์


เข้ามาแจกใบปลิวถึงที่นี่แล้วเวิร์กมั้ยครับ ก็พอสมควรนะ มันไม่มาก แต่ก็ไม่น้อยถึงขนาดที่ว่ามาแล้วผิดหวัง แต่ปีนึงก็เข้ามาเฉพาะช่วงไฮซีซั่นนะ ไม่ได้มาทุกวัน เพราะเราก็ต้องดูกิจการของเราด้วย การมากรุงเทพฯ เป็นแค่ส่วนประกอบเท่านั้นเอง


อันนี้เป็นกิจการของลุงเองเหรอครับ เป็นของเพื่อน แต่ผมไปช่วยงานเขา


เข้ามาแบบนี้กี่ปีแล้วครับ สองสามปีแล้ว แต่ก็เฉพาะช่วงที่ฝรั่งเยอะๆ นะ เพราะถ้าเราจะรอฝรั่งวอล์คอินหรือไปหาเราโดยตรงมันไม่มี เราต้องมาหาเขาแล้วก็นำเขาไป ฝรั่งเขาไม่รู้หรอกว่าเมืองไทยเรามีไรบ้าง เราต้องมา contact กับเขา ถ้าเขาไปแล้วเราบริการดี เดี๋ยวเขาก็ไปบอกต่อ การท่องเที่ยวมันก็ต้องอาศัยแบบนี้อ่ะนะ ไม่มีใครเก่งคนเดียวได้ มันต้องพึ่งพาซึ่งกันและกัน


งั้นคุณลุงโปรโมทกิจการของคุณลุงเลยครับ เดี๋ยวผมลงให้ ชื่อจังเกิ้ลฮัท (Jungle Hut) นะครับ แปลว่ากระท่อมริมทาง อยู่ติดกับสะพานข้ามแม่น้ำแคว แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติ ด้านหน้ามีภูเขา ด้านหลังเป็นป่า เกสต์เฮาส์เราตั้งอยู่บนแพนะ อยู่บนแม่น้ำเลย คุณสามารถจะนั่งอยู่หน้าแพ เอาเท้าจ่อมไปในแม่น้ำได้เลย

(หมายเหตุ: ตอนนั้นคุณลุงไม่มีเบอร์ และไม่มีเว็บไซต์ แค่บอกว่าถ้าจะไปให้ติดต่อคุณลุงโดยตรง)

 

“เดี๋ยวสักตีสามครึ่งหรือตีสี่เขาก็เป่านกหวีดเรียกแล้ว เพราะรถไฟเขาเข้ามา”

สมบูรณ์ (เสื้อลายทาง) กับแอ๊ด (เสื้อสก๊อต) จากกรุงเทพฯ


มาจากที่ไหนแล้วนอนมากี่คืนแล้วครับ สมบูรณ์: ก็อยู่นี่ทุกคืนล่ะค่ะ ฉันมาจากอยุธยา แอ๊ด: ของยายนานๆ มาที ยายเป็นคนสะพานใหม่บางเขน แต่ก่อนอยู่อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม แต่พอมาได้แฟนที่สะพานใหม่ก็เลยโอนเข้าบางเขน ปู่ย่าตายายตายหมดแล้ว เหลือแต่น้า นี่ยังไม่ได้ไปหาเขาเลย ตายไปบ้างหรือยังก็ไม่รู้ ตอนนี้มีลูกชายขับรถวินอยู่ที่สะพานใหม่ แต่นี่กำลังจะไปรับแจกข้าวสารตามโรงเจค่ะ สมบูรณ์: เดี๋ยวฉันจะไปรับที่สุรินทร์โน่น โคร่ง-โคราชก็รับหมดล่ะค่ะ


อ้าว ผมนึกว่ารับในกรุงเทพฯ กรุงเทพฯ ไม่มีเหรอครับ แอ๊ด: ต้องไปรับตามต่างจังหวัดค่ะ เดี๋ยวนี่กรุงเทพฯ ไม่ค่อยมีแล้ว แต่ตอนเดือนสิงหานี่เยอะมากเลย เพราะเขามีกินเจกัน สมบูรณ์: แต่เดี๋ยวจะไปรับสะพานพุทธ ตรงวัดประยูรไงคะ ที่มีเสาเยอะๆ น่ะ เขามีงานวันเกิดหลวงพ่อ แอ๊ด: มันจะมีใบรายการไงคะ ก็ดูใบรายการ มีที่ไหนเราก็ไปที่นั่น ถุงละ 5 โล ถ้าไกลก็ขายไป ถ้าใกล้ก็เอาเข้าบ้านไปให้ลูกหลานกิน


นี่คุณยายรู้จักกันยังไงครับ แอ๊ด: ก็รับแจกข้าวสารแล้วก็รู้จักกัน


แล้วนี่ต้องนอนกันถึงกี่โมงครับ แอ๊ด: เดี๋ยวสักตีสามครึ่งหรือตีสี่เขาก็เป่านกหวีดเรียกแล้ว เพราะรถไฟเขาเข้ามาแล้วคนจะต้องเดิน พอตื่นก็ไปหาข้าวกิน ที่โรงเจ ที่วัด แล้วนั่งรถไฟไปรับข้าว สมบูรณ์: คือว่า จะบอกว่า ขอบคุณค่ะหัวลำโพงที่ต้อนรับประชาชน รับข้าวรับน้ำค่ะ


เขามีแจกข้าวด้วยเหรอครับ คนของหัวลำโพงเหรอครับ แอ๊ด: มาจากไหนไม่รู้ โดยมากเป็นคนจีน คนแขก แต่เขาแจกทั่วไปนะ สนามหลวงเขาก็ไปแจกนะ พอหน้าหนาวก็เอาผ้าห่มมาแจกด้วยแหละ คนดีมากเลย เดี๋ยวก็จะมาแล้วเนี่ย


คุณยายอยู่กรุงเทพฯ มากี่ปีแล้วครับ แอ๊ด: อยู่มาได้ 50 ปีแล้ว ที่สะพานใหม่ แฟนเพิ่งเสียเมื่อเร็วๆ นี้ สมบูรณ์: ดิฉันก็ไปๆ มาๆ ล่ะค่ะ เพราะว่าหัวลำโพงนี่มันที่ส่วนรวมนะคะ ฉันก็ชอบท่องเที่ยว ฉันก็ไปๆ มาๆ รถไฟนี่ล่ะค่ะ


ไปเที่ยวไหนกันบ้างครับ แอ๊ด: ยายไม่ไปหรอก ก็มาตรงนี้แล้วก็กลับไปหาลูกหลาน มีลูกหลานตั้งสี่คนน่ะ แฟนก็ตาย หงอยเลย ก็มานอนอย่างเนี้ย นี่คิดถึงแฟนมากเลย บางครั้งร้องไห้เลยอ่ะ


อยู่กันมากี่ปีครับ แอ๊ด: ตอนนี้ยาย 64 ส่วนลูกชาย 45 แล้ว แฟนยายเขาตายตอน 75 อ่ะ แฟนดั้งแฟนเดิมเลย มีคนเดียวเลย นี่มีผู้ชายมาติดยังไม่เอาเลยอ่ะ ไม่เอาแล้ว อยู่กับลูกกับหลานดีกว่า สบายกว่า เนอะหนูเนอะ


ตอนสาวๆ ทำงานอะไรกันครับ สมบูรณ์: ตอนนี้ฉันลาออกมานานแล้ว เมื่อก่อนทำงานฝรั่งค่ะ กลางค่ำกลางคืนก็ลงเรือนำเที่ยวอ่ะค่ะ แต่เบื่อมัน ไม่มีเวลาพักผ่อน ก็ขอลาออกมาเป็นลูกจ้างรายวัน เก็บขวด เก็บกระดาษเก็บน้ำมั่ง แอ๊ด: ตะก่อนนี้ทำงานในกรุงเทพฯ อยู่กับพ่อ ทำงานก่อสร้างได้วันละสิบบาท แต่ก็ตั้งกะปีมะโว้โน่นแล้วนะ ต่อมาอยู่กับน้า ทำได้ก็ให้น้าหมด แล้วก็มารับจ้างหาบถ่าน ส่งถ่านข่ายตามตึก อายุตอนนั้นก็ราวๆ 17-18 หาบถ่านขายได้เดือนละ 150 ทำสี่ห้าเดือนเขาก็ทำทองให้บาทนึง ตอนนั้นบาทมันละ 420


อยากให้กรุงเทพฯ มีอะไรบ้างครับ สมบูรณ์: ก็อยากให้มีแสงสี


อ้าว มันก็มีอยู่แล้วนี่ครับ สมบูรณ์: แล้วก็อยากให้มีการเต้นรง-เต้นรำ เต้นลีลาศไรเงี้ย


ที่ไหนครับ สมบูรณ์: ที่นี่ล่ะค่ะ ที่หัวลำโพง แอ๊ด: แต่ยายชอบลิเก ถ้ามีลิเกนี่ไม่ได้เลยนะ ยายต้องไปดูเลย อย่างโทรศัพท์ลูกชายตัด ยายยังไปเติมเน็ต 20 บาทมาดูเลย บางทีเปิดดูหลับไปเลย แต่ลูกชายไม่ให้พกโทรศัพท์มา เขากลัวหาย

 

“สิงห์บุรีโรงงานมันเยอะ แต่เราอยากทำงานค้าขาย”

วิชัย จาก สิงห์บุรี


คุณน้ามาจากไหนแล้วกำลังจะไปไหนครับ เป็นคนสิงห์บุรีครับ ตอนนี้อายุ 50 กำลังจะกลับบ้านที่สิงห์บุรีครับ


เข้ามากรุงเทพฯ เมื่อไหร่ แล้วทำไมถึงย้ายมาครับ สักสามปีที่แล้ว ก็มาลองทำค้าขายทั่วไปที่ตลาดไทย เพราะว่าที่สิงห์บุรีโรงงานมันเยอะ แต่เราอยากหางานค้าขาย


ปีหนึ่งกลับบ้านกี่ครั้ง สองครั้งครับ


แล้วรอบนี้กลับไปกี่วันครับ ไม่กี่วัน ลูกผมอยู่สิงห์บุรี ไปหาลูก หาแม่ แล้วเดี๋ยวก็กลับมาใหม่ คิดถึงพ่อแม่ แม่ผม 70 กว่าแล้ว


กลับถึงบ้านพรุ่งนี้กะว่าจะทำอะไรกันครับ ก็…เดินเล่นกันมั้ง (หัวเราะ) เดินเล่น

bottom of page