top of page
  • Black Facebook Icon
  • Instagram

Welcome to the world where truth doesn't hurt

เราเห็นธนาธรตกงาน เลยเอาใบสมัคร Starbucks ไปให้กรอก



ก็เช่นเคย สัมภาษณ์นี้ทำไว้ตั้งแต่เดือนตุลา แต่ที่เพิ่งจะมาลงตอนนี้ไม่ใช่อะไร เพราะตั้งแต่ตุลาถึงมกรา ธนาธรดูจะมีเรื่องมีราวนี่นั่นเยอะเหลือเกิน ไอ้เราก็ไม่อยากจะลงตอนที่เขามีเรื่องอยู่ เดี๋ยวจะหาว่าดองไว้เพื่อจ้องเกาะกระแส แล้วก็แปลก พอจะกด publish ที่ไร ก็มาอีกละ เดี๋ยวก็เรื่องโอนหุ้น เดี๋ยวก็เรื่องยุบพรรค เฮ้อ...คนอะไรซวยรายสัปดาห์

แต่ตอนนี้เหมือนทุกอย่างจะคลี่คลายได้คำตอบแล้ว แล้วเราก็ดองไว้นานมากแล้ว ก็จะลงแล้วล่ะไม่สนว่าเขาจะเป็นข่าวอะไรแล้ว แต่การลงช้าแบบนี้ก็มีข้อดีตรงที่พอมาคิดว่านี่เป็นสิ่งที่เขาพูดไว้ตั้งแต่ก่อนจะเกิดเรื่องยุบพรรค มันก็สะท้อนความคิดที่แน่วแน่ของเขาที่ผ่านมาได้ชัดเจนทีเดียว และสะท้อนภาพการตบตีกันทางการเมืองแบบที่เขาบอกว่าตั้งรับไว้ตั้งแต่ก่อนจะตั้งพรรคแล้ว โอ้นี่มันการเมืองหรือละครสงครามนางฟ้าคะพ่อ อนึ่ง สัมภาษณ์นี้มีคนถามสองคน ฉะนั้นอย่าได้งงว่าทำไมเดี๋ยวคะ เดี๋ยวครับ

อีกเรื่อง-- อย่าลืมกดดู MV ท้ายบทความที่เราทำให้หนึ่งในสมาชิกแก๊งประเทศกูมี

 

สัมภาษณ์ โดย นันท์นภัส​ ธิปธรารัตนศิริ​ @aomster ชีวิน กิตติ์ชรินดา @gun_b61 ภาพเปิด โดย ธาเกียรติ​ ศรีวุฒิชาญ @kkentia

 

ยังจะไปพายเรือข้ามอ่าวไทยอีกไหมคะ เพราะเห็นคราวที่แล้วยังไม่สำเร็จใช่ไหม

ยังไม่สำเร็จ คือผมคิดว่าสิ่งที่ท้ายที่สุดเวลาไปทำอะไรก็แล้วแต่ สำหรับนักผจญภัยคนอื่นผมไม่รู้นะ แต่สำหรับผมโจทย์แรกคือต้องกลับบ้านอย่างปลอดภัย ความเสี่ยงอะไรที่มันเกินนี่ต้องปิดให้หมดให้ได้

แล้วเกิดปัญหาอะไรคะที่ตอนนั้นมันไม่สำเร็จ

มันหลายอันคุณจะเอาอันไหน

พายเรือครับ อันที่ข้ามอ่าวไทย

อันที่ข้ามอ่าวไทยคือพายเรือจากพัทยาไปหัวหินหรือตัดอ่าวไทย มันยังไม่มีคนทำได้มาก่อน ที่มีคนเคยทำได้คือพายเรือจากพัทยาไปหัวหินแบบเลาะชายฝั่ง แต่ถ้าพายตัดอ่าวความยาวมันประมาณ 105 กิโลนะครับ ขึ้นอยู่กับว่าตรงไหนของหัวหิน ตรงไหนของพัทยาที่คุณจะเริ่ม มีคนเคยขี่เจ็ตสกี มีคนเคยแล่นเรือใบ แต่พายเรือยังไม่มีนะครับ ผมก็พายเส้นนี้ 2 ครั้งก็ไม่สำเร็จสักครั้ง ก็เป็นเส้นที่ต้องเตรียมตัวและการวางแผนเยอะมาก มันต้องฝึกแรงฝึกใจเยอะมากครับ


แล้วสองครั้งที่ได้นี่ระยะทางเท่าไหร่ครับ

รู้กจะเท่ากันนะ เกือบๆ 45 กิโล ถ้าให้ผมเดานะ คุณต้องมี 36 ชั่วโมงน่ะ ไม่ง่าย ดังนั้นคุณต้องเตรียมใจ

อย่างนี้มีแผนจะกลับไปทำอีกไหมคะ

ผมคงจะกลับไปอีกสักครั้งหนึ่ง เป็นครั้งที่ 3 ถ้าทำไม่ได้คงจะเขียนบทความอะไรสักชิ้นที่ทิ้งประสบการณ์ไว้เพื่อให้นักผจญภัยท่านต่อไปได้แก้โจทย์นี้ต่อ

ทำไมถึงชอบเรื่องการผจญภัยคะ

ผมคิดว่ามันเป็นการทดสอบตัวเองว่าขีดจำกัดของมนุษย์ ของความเป็นเรามันอยู่ที่ไหน อะไรคือเส้นที่เราข้ามได้ อะไรคือกำแพงที่สูงและหนาเกินไปที่เราจะปีนข้ามผ่านมันได้ ผมว่ามันเป็นการทดสอบตัวเอง มันเป็นการพูดคุย เป็นการเดินทางในห้วงคำนึงของตัวเอง และอีกแง่นึง เวลาเราพูดถึงเรื่องการผจญภัย คุณต้องพูดถึงการวางแผนด้วยนะ ว่าคุณเตรียมตัววางแผนมาได้รอบคอบแค่ไหน คุณปิดความเสี่ยงได้เยอะแค่ไหน ความเสี่ยงที่ยังเหลืออยู่เป็นความเสี่ยงที่คุณรับได้หรือไม่ได้ มันมีโจทย์เยอะกว่านั้นเยอะ


มาทำการเมืองแล้วแบ่งเวลาไปผจญภัยยังไงคะ

ก็น้อยลงจนแทบจะไม่มีเลยดีกว่า คือชีวิตของเรามันไม่ใช่ของเราคนเดียวแล้ว มันเป็นชีวิตที่เราจะต้องแบกพรรคแบกเพื่อนร่วมงานไว้อีกเยอะนะ คือแต่ก่อนถ้าเราตายมันก็ครอบครัวของเรากับคนในบริษัทใช่ไหม แต่เดียวนี้ถ้าเราตายนี่ไม่ใช่เรื่องของเราคนเดียวแล้ว ดังนั้นความเสี่ยงที่เราจะสามารถรับได้มันน้อยลง วันนี้พอเรามีพรรคการเมือง มีคนที่เราจะต้องแบกรับ เราไม่สามารถแบกรับความเสี่ยงที่ใหญ่ขนาดนั้นได้อีกแล้ว

เห็นว่าช่วงนี้คุณธนาธรตกงาน เลยเอาใบสมัครงานมาให้กรอก อยากทำตำแหน่งอะไรดีครับ?

Store Manager ละกัน ผมเป็นบาริสต้าไม่ได้อ่ะ ชงไม่เป็น

ปกติดื่มกาแฟไหมครับ

ผมก็กินกาแฟง่ายๆ นะ ก็กาแฟดำธรรมดาไม่ใส่น้ำตาล ไม่ก็เอสเพรสโซ่

สมัครงานครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่คะ

ปีที่แล้ว สมัครครั้งสุดท้ายก็นี่ไง—พรรคอนาคตใหม่

เคยอยากทำงานร้านกาแฟบ้างไหมครับ

ไม่นะ แต่เคยอยากจะมีร้านหนังสือแล้วมีร้านกาแฟอยู่ข้างในร้านหนังสือ

นานหรือยังคะที่มีความคิดอยากจะมีร้านหนังสือ

นานแล้ว จริงๆ ผมเนี่ยเป็นคนจะว่าเชยก็เชยนะ ผมเคยมี Kindle แต่ก็ไม่เคยใช้ เวลาอ่านหนังสือผมจะต้องปริ้นต์ออกมาเป็นกระดาษตลอด หนังสือพิมพ์ทุกวันนี้ผมก็ยังอ่านกระดาษนะ แล้วผมก็ยังอ่านหนังสือแบบนี้ (เป็นเล่ม) ดังนั้นจะเรียกว่า old fashion ได้เลย พอเคยใช้ไอ้พวกที่มันเป็นอิเล็กทรอนิกส์แล้วมันไม่ได้ ดังนั้นก็อยากจะมีร้านหนังสือเล็กๆ ของตัวเองอะไรแบบนี้น่ะครับ


ทำไมถึงเลือกตำแหน่งผู้จัดการร้านคะ

ก็มันไม่มี choice ให้เลือกเยอะนี่ คือผมไม่เคยทำงานในร้านกาแฟมาก่อนก็นึกไม่ออก แต่หน้าที่ของผู้จัดการร้านนี่ผมคิดว่าคงไม่ใช่หน้าที่ทางเทคนิค คงเป็นการบริหารงานทั่วไป ดูแลทีมงาน ดูแลคุณภาพของการให้บริการ ดูแลความสะอาดของสถานที่ ก็คงเป็นลักษณะนี้

เห็นว่าตอนเด็กๆ เคยไปทำงานเป็นเด็กล้างจานอยู่ที่อเมริกาใช่ไหมครับ แล้วเคยมีงานพาร์ตไทม์อื่นๆ อีกหรือเปล่า

ผมมีเยอะนะ นอกจากไปทำงานในร้านอาหารที่อเมริกาผมเคยเป็นเบลล์บอยในโรงแรม เข็นกระเป๋า ยกกระเป๋าให้แขก ในโรงแรมเดียวกันก็ทำปูเตียงด้วย เคยเป็นพนักงานทำความสะอาดห้องพักในโรงแรม มีล้างห้องส้วมอะไรแบบนี้ แล้วก็มีเป็นพนักงานทำงานอยู่ในโกดัง ขนของขึ้นรถกระบะไปส่งลูกค้าที่โกดัง

ทำโกดังที่ไหนคะ

โรงงานของธุรกิจของที่บ้าน ตอนนั้นรู้สึกน่าจะ ป.6 มั้ง ได้วันละ 30 บาท แล้วมีอะไรอีกนะ ผมเคยไปเป็น ฟรีแลนซ์อยู่ แต่ตอนนั้นมันยังไม่มีอินเทอร์เน็ตไม่รู้ว่าคุณทันรึป่าว สยามกีฬา Star Soccer อ่ะ

ทันค่ะ!

ทุกคนที่ติดตามฟุตบอลต้องไปซื้อ แล้วมีอยู่ช่วงนึงเขาเปิดรับสมัครฟรีแลนซ์ไปช่วยแปลข่าว-เขียนข่าวที่เกี่ยวกับฟุตบอล ผมก็ไปทำเป็นฟรีแลนซ์ช่วงปิดเทอม รู้สึก ม.5 มั้ง

แสดงว่าเป็นคนติดตามฟุตบอลด้วยหรือเปล่าคะ

แต่ก่อนนะ เดี๋ยวนี่เลิกดูไปนานแล้ว แต่ก่อนผมเชียร์ น็อตติ้งแฮม ฟอร์เรสต์ ก็เป็นทีมเล็กนะครับ อันดับดีที่สุดตั้งแต่ผมเชียร์น่าจะเป็นอันดับ 3 เป็นปีที่ลิเวอร์พูลได้แชมป์ (ปี 1995) ที่มีสแตน คอลลีมอร์

แต่เหมือนวัฒนธรรมบ้านเรามันไม่เหมือนกันด้วย คือเมืองนอก 15-16 เขาจะผลักให้ลูกไปทำงานแล้ว แต่บ้านเราจะแบบมีความโอ๋ ไม่อยากให้ลูกลำบาก

ก็น่าจะเป็นชีวิตของคนที่มีอันจะกินระดับนึง ถ้าคุณมีทางเลือกในชีวิตคุณก็เป็นอย่างนั้น แต่ถ้าคุณไม่มีทางเลือก ถ้าไม่มีอันจะกินคุณอยากรู้ไหม ไปกับผมดิ ไปลงชุมชนแออัดคลองเตย ชุมชนแออัดคลองเตยวิถีชีวิตของเขาคนเป็นแม่ โน่นรับจ้างเป็นแม่บ้านทำความสะอาดให้กับห้องในคอนโด คนเป็นพ่อขับแท็กซี่หรือรับจ้างก่อสร้าง ลูกชายส่วนใหญ่เรียนจบที่ไหนล่ะ ไม่ขับแท็กซี่ตามพ่อก็ขับวินมอเตอร์ไซค์ ลูกสาวทำงานเซเว่นระหว่างเรียน คนที่ต้องทำงานพาร์ตไทม์ส่วนใหญ่คือคนที่เขากระเสือกกระสนกับชีวิตไง คนที่เขาต้องดิ้นรน ต้องต่อสู้ คนที่เขาอยากเรียนแต่ไม่มีเงินเรียน คนที่บ้านเขากู้ มันไม่ใช่เป็นเรื่องสนุกของคนชั้นกลางหรือคนชั้นบน โอเคถ้าเป็นแบบผมส่งลูกเข้าไปเพื่อให้เรียนรู้ชีวิตได้ แต่สำหรับคนส่วนใหญ่งานพาร์ตไทม์มันไม่ใช่งานอดิเรก มันเป็นชีวิตที่เขาต้องต่อสู้

ดูประวัติการทำงานกันดีกว่า สาเหตุจากการออกจากที่ทำงานเก่าคืออะไรคะ

เพื่อตั้งพรรคการเมือง


ทำไมถึงเลือกมาทำงานการเมือง

คือผมว่าบางสังคมมันแย่มากนะ คือความไม่เท่าเทียมมันทำน่ะครับ ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ การละเมิดสิทธิมนุษยชน ความล้าหลังทางเศรษฐกิจ ในขณะที่เพื่อนบ้านของเราขยับตัวกันหมด ดังนั้นด้วยเหตุผลต่างๆ เหล่านี้ ผมเชื่อว่าจำเป็นอย่างยิ่งที่ประเทศจะต้องมีพรรคการเมืองใหม่ พรรคการเมืองที่ก้าวหน้า พรรคการเมืองที่ยืนหยัดด้วยอุดมการณ์ประชาธิปไตย ยืดยัดด้วยความเสมอภาคในสังคม นั่นก็คือเหตุผลที่ออกมาตั้งพรรคการเมือง


ตอนนั้นใช้เวลาตัดสินใจนานไหมคะ

ใช้เวลาตัดสินใจประมาณ 3-4 เดือน ในช่วงปลายปี 60 มั้ง ผมตั้งพรรคในช่วงกลางปี 61

ตอนนั้นความยากในการตัดสินใจที่จะออกมาเริ่มต้นใหม่คืออะไรคะ

คือเราต้องเข้าใจว่าปัจจุบันสังคมไทยเนี่ย มันปกครองด้วยคนกลุ่มน้อยซึ่งไม่ยอมรับการคลี่คลายของสถานการณ์สังคม ไม่ยอมรับระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย แล้วคนกลุ่มนี้มีทั้งอำนาจปืน อำนาจรถถัง มีทั้งคุกตาราง มีทั้งกฎหมายที่เขาเขียนเอง มีทั้งองค์กรอิสระที่เขาแต่งตั้งเองที่สามารถให้คุณให้โทษกับนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามได้ ดังนั้นถ้าถามว่าความยากคืออะไร ความยากก็คือเรื่องนี้ รู้อยู่แล้วว่าตั้งพรรคขึ้นมาจะต้องโดนกระทำ ไม่ได้ตั้งพรรคขึ้นมาโดยมีอำนาจอย่างเสมอกันนะครับ มันไม่เหมือนกับประเทศที่พัฒนาแล้ว ที่ตั้งพรรคการเมืองเหมือนคู่แข่งของเรา ก็คือนักการเมืองพรรคอื่น แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ คู่แข่งของเราคือกลุ่มคน กลุ่มผู้นำกองทัพที่กุมอำนาจของประเทศไทยไว้แล้วไม่ยอมที่จะปล่อยอำนาจนั้นให้กลับมาเป็นของประชาชน


ดังนั้นเรารู้อยู่แล้ว ประวัติศาสตร์มันสอนเราอยู่แล้วว่าถ้าออกมาตั้งพรรคการเมืองแล้วชนกับเขาเพื่อที่จะทวงคืนความเป็นธรรม เพื่อที่จะทวงคืนอำนาจของประชาชนมาจากพวกเขาเมื่อไหร่ คุณเจอคดี คุณเจอคุกตาราง คุณเจอการขมขู่แน่ๆ ดังนั้นการตั้งพรรคขึ้นมาก็หมายความว่าเรายอมรับในสิ่งที่จะเกิดขึ้น สิ่งที่เห็นในทุกวันนี้เป็นสิ่งที่เรารู้มาก่อนว่าจะต้องเกิดอยู่แล้ว แล้วเราทำใจเราเตรียมยอมรับมันตั้งแต่วันที่ตัดสินใจตั้งพรรคแล้ว


ถ้าบอกว่ารู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นอยู่แล้ว แบบนี้มี Plan A หรือ Plan B อย่างไรบ้างคะ

คือคนที่ท้าทายอำนาจอย่างนี้ในประวัติศาสตร์ ไม่ลี้ภัยไปตายต่างประเทศก็อยู่ในคุก หรือไม่ก็โดนลอบสังหาร นี่คือเส้นทางของคนที่ต่อสู้กับอำนาจแบบนี้ มีอยู่เท่านี้ในประวัติศาสตร์


ซึ่งอันนี้นี่เตรียมใจไว้แล้ว

เตรียมใจไว้แล้ว การตั้งพรรคในประเทศไทยในยุคสมัยนี้ถ้าคุณไม่หน่อมแน้มเกินไปคุณก็จะรู้อยู่แล้วว่าจะต้องเกิดสิ่งนี้ ถ้าเป็นพรรคการเมืองที่ยืนในสิ่งที่ถูกต้อง เป็นพรรคการเมืองที่ท้าทายกับอำนาจความไม่ยุติธรรม คุณต้องรู้อยู่แล้วว่าสิ่งนี้จะต้องเกิดขึ้น

ตอนนี้ยังสามารถยุ่งเกี่ยวกับอะไรกับการเมืองได้บ้างครับ

เขาไม่ให้เข้าสภา แต่ผมยังเป็นยังเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอยู่


อย่างนี้มีอำนาจอะไรที่เกี่ยวกับทางการเมืองอยู่ไหมคะ

ไม่มี เขาไม่ให้ผมปฏิบัติหน้าที่


รู้สึกอย่างไรบ้างคะแบบนี้

ผมคิดว่ามันเป็นการเดินทางนะ ถ้าผมไม่ทำก็ไม่มีใครทำ มันก็มองไม่เห็นว่าใครจะกล้าทำ กล้าท้าทายอำนาจของพวกเขาอย่างที่เราทำนะครับ ดังนั้นรู้สึกยังไง ผมก็คิดว่ามันเป็นการเดินทางที่จะต้องต้องสู้ต่อไป ที่จะต้องดำรงให้ประชาชนเข้าใจถึงปัญหาโครงสร้างของสังคมไทย มันก็เป็นการเดินทางยาวน่ะครับ


อยู่ในตำแหน่ง ส.ส. แต่ว่าเข้าสภาไม่ได้อย่างนี้ คุณธนาธรยังทำงานอะไรได้บ้างคะ

ถึงไม่ได้เข้าทำงานในสภาก็ยังมีอย่างอื่นอีกที่เราสามารถทำได้เยอะแยะไปนะครับ เช่นขัดเกลานโยบายของพรรคให้ตอบสนองต่อประชาชนให้แหลมคมตลอดเวลา เดินหน้าพบปะประชาชนเพื่อเข้าใจปัญหาของเขา เพื่อเอามาทำนโยบายที่ดีเพื่อวันที่เรามีอำนาจเราจะสามารถแก้ปัญหาให้เขาได้เลย ไม่ต้องมานั่งศึกษาปัญหาใหม่ ก็มีอะไรที่ต้องทำอีกเยอะ เช่นผลักดันกฎหมายที่ก้าวหน้าผ่านสภาให้ได้ อย่างเช่นเรากำลังเสนอกฎหมายยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ที่ผ่านมาไม่มีใครกล้าทำ คือการปฏิรูปกองทัพ คือไปลดทอนนะครับ ท้าทายอำนาจเขา เพราะการเกณฑ์ทหารคืออะไร? คุณเอาคนในวัยสุกสกาว ในวัยที่กำลังจะต้องเรียนจบจะต้องเป็นผู้ใหญ่ กำลังจะต้องรับผิดชอบชีวิตของตัวเองและครอบครัว เอาไปอยู่ในค่ายทหารสองปี ในค่ายทหารสองปีมันก็หล่อหลอมความคิดอนุรักษ์นิยม ความคิดที่ไม่ได้ทำให้สังคมไทยก้าวหน้า คุณเที่ยวไปหล่อหลอมนะครับ สุดท้ายคุณเสียเวลาไปสองปี แต่ว่าสองปีนี้หนี้หยุดรึเปล่า ดอกเบี้ยหยุดเดินรึเปล่า ก็ไม่หยุด ออกมาจากค่ายทหารมีทักษะอะไรที่จะทำให้ชีวิตของคุณมีทักษะหารายได้เพิ่มมากขึ้นบ้าง ก็ไม่มี โอเคคุณอาจจะเลี้ยงไก่เป็นแต่คุณไม่มีทักษะอะไรเพิ่ม คุณลองคิดถ้าคุณอยู่ในบริษัทเอกชน สองปีนี่คุณได้ทักษะเพิ่มเยอะนะ เช่นถ้าคุณเป็นนักข่าว คุณก็จะติดตามข่าว คุณอาจจะต้องตัดต่อเป็น คุณจะต้องใช้เทคโนโลยีเป็นก็ได้ทักษะเพิ่ม ถ้าพลักดันให้ยกเลิกการเกณฑ์ทหารเกิดขึ้นได้ ก็เป็นการเปลี่ยนแปลง

เคยเกณฑ์หรือยังคะ

ผมไปจับใบดำ-ใบแดงรอดมาได้ เกณฑ์ทหารเนี่ยคุณต้องเข้าใจมันเป็นเรื่องของชนชั้น คุณเคยเห็นคนรวยไปเป็นทหารเกณฑ์หรือเปล่า คนรวยเขามีโอกาสที่จะเรียน ร.ด. เขามีโอกาสในข้อยกเว้น คุณเป็นคนจนไปเกณฑ์ทหารนี่กี่ปี สองปี แต่ถ้าคุณเป็นคนมีฐานะคุณได้ข้อยกเว้นเยอะแยะไปหมด เรียบจบโน่น เรียนจบนี่ ได้ข้อยกเว้นนั้น สุดท้ายถ้าต้องเป็นก็เป็นแค่หกเดือน ขณะที่คนจนมีข้อยกเว้นไหม ไม่มี คนจนเป็นเกณฑ์ทหารสองปี คุณลองไปถามสิ คนชั้นกลางระดับบน หรือคนที่มีฐานะดีมีลูกคนไหนไปเป็นทหารเกณฑ์บ้างไม่ ไม่มี ทหารเกณฑ์มันเป็นเรื่องของชนชั้น

ผมก็เรียน ร.ด. เพราะเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร

ใช่ ทุกคนก็ต้องการเลี่ยงการเป็นทหาร แล้วคุณเอาอาทิตย์ละหนึ่งวันบ่ายหนึ่งเช้าหายไปเลย เอาเวลานั่นมาสอนวิทยาศาสตร์ มาให้เด็กๆ อ่านหนังสือใ ห้เด็กๆ ออกกำลังกาย ผมว่ามีคุณค่ากว่าเยอะ คุณถามคนที่เรียน ร.ด. เรียนแล้วได้อะไรบ้าง?


มีติ่งดาราเกาหลีเขาจะบอกว่าพวกดาราเกาหลีเขายังเกณฑ์ หายไปตั้ง 2 ปีเขาไม่เห็นบ่นเลยงี้

ก็ใช่สิ โซลกับเปียงยางห่างกันน้อยกว่ากรุงเทพ เชียงใหม่อีก มันกดขีปนาวุธที่เดียวก็ยิงมาแล้ว มันมีผลต่างกันเยอะ ถามว่าประเทศไทยเนี่ย วันนี้ภัยคุกคามในเชิงสงครามที่เป็นภัยคุกคามเนี่ยมีไหม ไม่มี โอกาสที่จะเกิดสงครามบริบทมันต่างกันมหาศาล คุณเทียบได้ไงล่ะ เขาอยู่กับเกาหลีเหนือที่มันมีอาวุธนิวเคลียร์อยู่ข้างบ้าน แล้วทะเลาะกันมา 60 ปี มีการจับ มีการลักพาตัว มีการข่มขู่คุกคาม มีอะไรเยอะแยะไปหมด ถ้าประเทศไทยคุณมองไปสิ มันไม่มี ดังนั้นคนที่อ้างแบบนี้มันผิดฝาผิดตัว

มาดูข้อความสามารถพิเศษบ้างนะคะ พูดได้กี่ภาษาคะ

ผมพูดได้แค่ไทยกับอังกฤษ


ถ้าเลือกได้สักภาษาอยากจะพูดภาษาอะไรได้ครับ

ผมอยากได้ภาษายุโรปสักภาษานึง จริงๆ ก็อยากได้เยอะนะ คือผมอยากได้ฝรั่งเศส สเปน จีน ญี่ปุ่น จริงๆ บาฮาซา (ภาษาอินโดนีเซีย) ก็อยากได้นะ


แต่อินโดมี 700 ภาษานะคะ ทำไมถึงอยากเรียนภาษาอินโดคะ

ก็เพื่อนบ้าน แล้วถ้าคุณได้บาฮาซาคุณจะพูดกับคนอินโดกับคนมาเลได้หมด คุณจะพูดกับคน 250 ล้านคนได้


แล้วภาษาของนักการเมืองในการโน้มนาวใจคนอย่างงี้ ต้องฝึกกันไหมครับ

ผมว่าไม่ต้องฝึกนะ คืออย่างนี้ คือคุณอย่าไปคิดว่านักการเมืองมันเป็นอาชีพพิเศษ มันก็เหมือนอาชีพอื่นทุกอาชีพ คุณจะสร้างความไว้วางใจกับคนอื่นได้ยังไง โจทย์สำคัญในทุกองค์กร ไม่ว่าจะเป็นองค์กรธุรกิจ องค์กรการเมือง องค์มูลนิธิไม่แสวงหากำไรหรืออะไรก็แล้วแต่ ท้ายที่สุดคนเรามันตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเชื่อใจกัน นั่นคือ trust คุณจะสร้าง trust ได้ยังไง ก็สร้างจากสิ่งที่คุณทำไม่ใช่จากสิ่งที่คุณพูด สร้างจากการลงมือทำในสิ่งที่คุณพูด ซ้ำแล้วซ้ำเล่า คุณถึงจะได้ความเชื่อใจ มันคือการสร้างความไว้วางใจ แต่ความไว้วางใจ ความเชื่อใจนี่มันบอบบาง กว่าจะสร้างใช้เวลานาน แต่ถึงเวลาเมื่อมันจะถูกทำลายมันใช้เวลาแป๊ปเดียว

แต่คุณธนาธรตอนช่วงที่หาเสียงหรือมีการดีเบต คนที่เป็นพรรคใหม่มาแรงมาเร็ว แต่คำพูดดูมีพลัง มีการเตรียมตัวหรือมีหลักการอะไรบ้างไหมคะ

มันน้อยนะ ผมว่าผมให้เรื่อง cosmetic คือเรื่องแต่งหน้าทาปากพวกนี้น้อย ผมคิดว่าสำคัญมันอยู่ที่ว่าคุณคิดในสิ่งคุณเชื่อ คุณพูดในสิ่งที่คุณคิด แล้วคุณทำให้สิ่งที่คุณพูด ก็ตรงไปตรงมาเท่านั้นเอง คุณอย่าพูดในสิ่งที่คุณไม่เชื่อ คุณอย่าพูดในสิ่งที่คุณไม่ศรัทธา คุณพูดในสิ่งที่คุณคิดแล้วคุณทำในสิ่งที่พูด ผมคิดว่ามันก็ง่ายๆ เท่านี้ ไม่ต้องมีอะไรที่มันวิเศษวิโสหรือพิธีรีตอง คุณเชื่ออะไร คุณอยากเห็นสังคมเป็นแบบไหน คุณพูดสิ่งต่างๆ ออกไป แล้วถ้าคุณมีอำนาจ คุณทำสิ่งเหล่านั้นให้เป็นจริง ผมว่านี่เป็นการทำงานของนักการเมืองและอาชีพอื่นๆ ทุกอาชีพ ก็มีเท่านั้น


มีเทคนิคการเก็บอารมณ์อะไรยังไงบ้างคะเวลาต้องไปดีเบตแล้วบ้างทีอีกฝั่งเขาพูดอะไรที่แบบว่า...

ก็ไม่ได้มีเทคนิคอะไรมากนะ คือให้เกียรติทุกคนในทุกสถานการณ์ เกียรตินี่เป็นเรื่องแปลกประหลาด ยิ่งคุณให้เกียรติเยอะคนก็จะให้เกียรติคุณเยอะ แต่ในทางกลับกันถ้าคุณไปปฎิบัติต่อคนอย่างไม่ให้เกียรติเขาเลย เขาก็จะปฏิบัติกับคุณอย่างไม่ให้เกียรติคุณ ดังนั้นเกียรติเป็นเรื่องประหลาด ยิ่งให้ยิ่งได้รับกลับมา

 

[ADVERTISEMENT] ศุกร์ที่ 14 นี้ Dudesweet มีปาร์ตี้วาเลนไทน์สีเขียวสำหรับหนุ่มเหงาสาวโสด ตั๋ว 420 บาท จองได้แล้วที่ https://www.eventpop.me/e/6617-legallove

 

ผมยังอยู่ในช่วงคาบเกี่ยวกับการเป็นนักศึกษา พวกผมยังมีพลังที่จะออกมาเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ไหมครับ ถ้าเกิดพวกผมออกมาพูด เหตุการณ์มันจะกลับวนไปในแบบพวกเหตุการณ์ 16 ตุลาไหมครับ

คุณคิดว่าเสรีภาพได้มาด้วยการร้องขอเหรอ ไม่มีสังคมไหนในโลกที่สิทธิเสรีภาพและความก้าวหน้ามาจากการร้องขอ คุณคิดว่าสิทธิในการลาคลอด 90 วันมาจากไหน มันได้มาจากการต่อสู้ของประชาชน ของกรรมกรที่ลุกขึ้นมาเรียกร้องครั้งแล้วครั้งเล่า ปีแล้วปีเล่า ให้ผู้หญิงมีสิทธิในการลาคลอด คุณคิดว่าสิทธิเสรีภาพที่คุณเอ็นจอยอยู่ ที่คุณใช้ชีวิตกับมันโดยที่คุณไม่รู้สึกว่าคุณมีแต่คุณมี สิ่งต่างๆ เหล่านี้ได้มาเพราะผู้ปกครองหยิบยืนให้หรือเปล่า ไม่ใช่ แต่เพราะมีคนไปต่อสู้เพื่อมันมาแต่คุณลืมไป อย่างสิทธิทำงานแปดชั่วโมงต่อวันนี่เพิ่งมีมาครึ่งศตวรรษนี่เอง แต่ก่อนโน้นทำงานวันละ 10 กว่าชั่วโมง ก็แล้วแต่คุณจะล้มตายไปเมื่อไหร่ สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ได้มาเพราะโชคช่วยหรือเพราะนายจ้างหยิบยื่นให้ แต่ได้มาจากการต่อสู้ ได้มาจากการเรียกร้อง ได้มาจากการเชื่อว่าเราทุกคนมีพลังมีสิทธิเสรีภาพและการแสดงออก ซึ่งพลังของพวกเรานำจะไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นได้ คุณไม่เชื่อในการเปลี่ยนแปลงคุณไปดูเกรต้า ทุนแบร์ก เด็กผู้หญิงคนเดียวอายุเท่าไหร่เอง ทำไมเขาทำให้เกิดอิมแพ็คขนาดนี้ได้ ถ้าคุณไม่เชื่อว่าพวกคุณเปลี่ยนแปลงได้ คุณไปอ่านมาลาลาสิ เขาออกมาต่อสู้เรื่องการศึกษาให้กับเด็กผู้หญิงมุสลิมในประเทศที่อนุรักษ์นิยมสุดโต่ง ได้รางวัลโนเบลตั้งแต่อายุ 17-18 ถ้าคุณไม่เชื่อว่าคุณเปลี่ยนแปลงได้ ดูปรีดี พนมยงค์ตอนที่เปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 อายุ 33 ปี

คิดว่าจะทำยังไงกับคนรุ่นใหม่ใช้พลังตัวเองกลับขึ้นมาตรงนี้อีกครั้งคะ

ผมคิดว่าคุณก็เห็นเรื่องแตกต่างเหล่านี้อยู่ในสังคมทุกวี่ทุกวัน ถ้าคุณอยากจะทำให้มันเกิดขึ้นจริง คุณก็ต้องปกป้องสิทธิเสรีภาพ ถ้าคุณไม่ปกป้องสิทธิเสรีภาพ ถึงแม้ว่ามันจะทำคนอื่น คุณคิดว่ามันเป็นเรื่องคนอื่น ไม่ใช่เรื่องคุณใช่ป่ะ


ตอนนี้มันกลายเป็นคนห่วงเรื่องปากท้องกว่าค่ะ ก็เลยไม่มีเวลาออกมาต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพ

ก็ใช่ไงใช่ เขาต้องการให้คุณเป็นอย่างนั้นไง เขาต้องการให้ประชาชนคนไทยโง่และจน เพื่อที่คุณจะได้ไม่มีเวลามาอ่านหนังสือ ไม่มีเวลาพักผ่อน ไม่มีเวลาอยู่กับลูก เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องสนใจปัญหาการเมือง เพื่อที่คุณจะได้ปากกัดตีนถีบ สนใจแต่การผ่อนเงินกู้ปลายเดือน เขาไม่ต้องการให้ประชาชนแข็งแรง ไม่ต้องการให้ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพ มีความมั่นคงในชีวิตในประเทศนี้ เพราะการที่ประชาชนฉลาด การที่ประชาชนมีความมั่งคั่ง การที่ประชาชนอ่านออกเขียนได้ในภาษาอังกฤษมันหมายความว่าคุณจะเข้าถึงความรู้ หมายความว่าคุณจะท้าทายอำนาจของพวกเขา คุณคิดว่าหลักสูตรการศึกษาที่คุณเรียนนี่ จู่ๆ มันออกมาเป็นอย่างนั้นหรือเปล่า พวกคุณคิดว่าเขาออกแบบหลักสูตรการศึกษามาเพื่ออะไร เพื่อให้คุณฉลาดขึ้นหรือเพื่อให้เขาอยู่ในอำนาจได้ตลอดไป คุณไปดูสิ่งที่คุณเรียนสิ ว่ามีอะไรที่บอกถึงความเป็นพลเมืองของคุณบ้าง มีอะไรที่เชิดชูความเป็นมนุษย์ในหนังสือเรียนของคุณบ้าง ในหนังสือเรียนคุณเรียนอะไร ในหนังสือเรียนคุณเรียนแต่นิทานใช่ไหม ไม่มีประชาชนในการศึกษาสมัยนี้ ไม่มีพลเมือง ไม่มีสิทธิประชาชน คุณเรียนเรื่อง 2475 หรือเปล่า


น้อยมาก ประมาณย่อหน้า

ใช่ไหม เขาไม่ได้สอนเรื่องพวกนี้ คุณคิดว่าเป็นความจงใจหรือเปล่าล่ะ ถ้าคุณไปอยู่ญี่ปุ่นในหนังสือเรียนเขาสอนอะไร เขาสอนปฎิวัติเมจิ เขาสอนสงครามโลกครั้งที่ 2 เขาสอนว่าประเทศของเขาเกิดขึ้นได้ยังไง คุณไปอังกฤษเขาสอนแมกนา คาร์ตา คุณไปฝรั่งเศสเขาสอนปฏิวัติฝรั่งเศส คุณมาเมืองไทยเขาสอนอะไร เขาไม่เคยสอนเรื่องสิทธิเสรีภาพ เขาไม่เคยสอนเรื่องความเท่าเทียม เขาไม่เคยสอนเรื่องปรัชญา เขาสอนแต่นิทานที่จะหลอกให้คุณมัธยัสถ์ อดออม เชื่อฟังผู้ใหญ่


เขาสอนว่าเราไปตีพม่า

ใช่ เขาสอนให้คุณเกลียดเพื่อนบ้านเพื่อให้คุณหลงลืมความขัดแย้งในประเทศ สร้างศัตรูร่วมกันว่าคุณกับพวกเขามีศัตรูเหมือนกันคือพม่า ทั้งที่คนที่ขัดขว้างความก้าวหน้าของประเทศไทยไม่ใช่พม่า แต่เป็นคนไทยด้วยกันเอง คนไทยที่มีอภิสิทธิ์ชน

แต่พอใครจะลุกขึ้นมามันก็ยากตรงที่มันจะกลายเป็นพรรคเป็นพวกอะไรอย่างนี้

ก็ใช่ไง พวกคุณเชื่อพวกเขาไง คุณต้องเข้าใจ เขาพยายามจะใช้แนวคิดนี้สร้างวาทกรรม สร้างชุดความเชื่อขึ้นมาหลายชุดเพื่อให้เขาครอบครองอำนาจต่อไปได้ แล้วหนึ่งในความเชื่อที่เขาปลูกฝังตลอด 5 ปีที่ผ่านมาก็คือความสงบ จะเอาอีกหรือเปล่าความวุ่นวายน่ะ เขาถามคุณอย่างนี้ทุกวันใช่ไหม แต่สิ่งที่คุณเห็นไม่ใช่ความสงบ แต่นี่คือการกดขี่ แต่เขาต้องการเขาพูดอย่างนี้เพราะพวกเขาไม่อยากให้คุณลุกขึ้นมาท้าทายอำนาจเขา แล้วทำไมคุณต้องเชื่อเพราะเขาพูดกรอกหูคุณทุกวัน ใครพูดเป็นอย่างอื่น 5 ปีที่ผ่านมาโดนทหารเยี่ยมบ้าน 5 ปีที่ผ่านมาโดนฟ้องโดนคดีอะไรเยอะแยะ บุคคลที่ออกมารณรงค์ต่อต้านรัฐประหารคนที่ออกมาพูดความจริงกับสังคมเป็นยังไง โน่นโดนคดีอยู่ในคุกไม่ก็โดนทหารเยี่ยมบ้าน โดนเรียกไปปรับทัศนคติ ใช้อำนาจใช้ปืนขู่ให้ประชาชนกลัว


คุณเอกเคยโดนบ้างยังคะ

ยังๆ


นอกจากไม่ให้เข้าสภามีโดนอย่างอื่นบ้างไหมคะ

โดนๆ ช่วงนั้นผมก็โดนเรียกไป ใช่ ก็มีบ้าง


คุณธนาธรจะดูเข้าใจวัยรุ่น เข้าใจคนยุคใหม่ ไปเข้าใจเขาได้ตรงจุดไหนบ้างคะ

ผมคิดว่า space นะ คนรุ่นใหม่ต้องการพื้นที่ ต้องการได้รับความเคารพในฐานะตัวของเขาเอง ไม่ใช่ที่อายุ เพศ ที่ไม่ใช่วุฒิการศึกษา ผมว่าทุกคนต้องการพื้นที่ในการแสดงออก ทุกคนต้องการให้คนอื่นเห็นคุณค่าของเขา

มีวงโปรดหรือเพลงที่ชอบบ้างไหม

ไม่มีนะ


ไม่มีเลย? ถ้างั้นฟังเพลงทั่วไปหรือไม่ค่อยฟังคะ

ผมไม่ได้ฟังเพลงสมัยใหม่นะ เพลงนี่ถ้าตัด [ช่วงเวลาที่ยังฟังเพลงบ่อยๆ] แบบหยาบๆ ก็อาจจะประมาณปี 2000 ก็เป็นเพลงที่สมัยที่เราเป็นวัยรุ่นน่ะ เพลงอะไรที่ใหม่กว่าปี 2000 ผมก็จะไม่ค่อยได้ฟัง


นี่ก็น่าจะเป็นเซทสุดท้ายนะครับ "ท่านเคยถูกให้ออกจากงานเนื่องจากความประพฤติหรืองานไม่เป็นที่พอใจของนายจ้างหรือไม่"

ยังไม่เคย


แล้วที่เขาไม่ให้เข้าสภานี่นับไหมคะ

เดี๋ยวๆ พวกเขาไม่ใช่นายจ้างผมนะ เจ้านายผมคือประชาชน ประชาชนแต่งตั้งผมเข้ามา


ฉะนั้น งานหลักตอนนี้ก็ยังอยู่ในแวดวงการเมือง แล้วในอนาคตนี่จะไม่หันกลับไปแวดวงธุรกิจแล้วใช่ไหมคะ

ไม่ๆ ก็ทิ้งชีวิตมาแล้ว

 

 

ป.ล. ทีม Dudesweet เราไปทำ MV ให้หนึ่งในสมาชิกจากแก๊งประเทศกูมี (Rap Against Dictatorship) นี่ก็ทำไว้ตั้งแต่เดือนกันยาเช่นกัน แต่เพิ่งจะปล่อย ขอเชิญรับชมและรับฟัง


bottom of page